บวชไว้แล้วยังไม่รอด แก๊งตัดไม้สุดเหิม บุกโค่นไม้พะยูงคาผ้าเหลือง ท้ายหมู่บ้านอาพืด ม.4 ต.คำผง อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ และขนหนีลอยนวล ทั้งที่ชาวบ้านทำพิธีบวชต้นไม้เอาไว้แล้ว ( 7 ส.ค.) |
วันนี้ (7 ส.ค. 60) พ.ต.อ.สุพัฒน์ นันทะแสง ผกก.สภ.โนนนารายณ์ อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ พร้อมด้วย ร.ต.ท.สมัคร โสรัตน์ สารวัตรสอบสวน สภ.โนนนารายณ์ ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังได้รับแจ้งจาก นายสุธี พันธ์นาม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ว่ามีกลุ่มคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คนเข้าไปลักลอบตัดไม้พะยูงที่บริเวณป่าช้าท้ายหมู่บ้าน บ้านอาพืด หมู่ที่ 4 ต.คำผง อ.โนนนารายณ์ โดยเหตุเกิดเมื่อคืนที่ผ่านมา
ในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นป่าช้าอยู่ห่างจากหมู่บ้านออกไปประมาณ 800 เมตร พบไม้พะยูงอายุประมาณ 80 ปี ขนาดความสูง 20 เมตร เส้นรอบวง 147 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร ถูกตัดโค่นลง พบร่องรอยคนร้ายตัดทอนไม้ออกเป็นท่อนๆ เพื่อสะดวกในการขนขึ้นรถกระบะหลบหนี ซึ่งมีความยาวประมาณ 8 เมตร โดยในที่เกิดเหตุยังพบเครื่องเก็บเสียงของเลื่อยยนต์ที่คนร้ายใช้ตกอยู่ ซึ่งคาดว่าคนร้ายคงใช้เพื่อกลบเสียงของเลื่อยยนต์ในขณะทำการตัดไม้ และยังได้พบผ้าสบงพระที่ชาวบ้านเคยทำพิธีบวชต้นไม้ไว้เมื่อ 2 ปีที่แล้วตกอยู่จำนวน 1 ผืน ทางเข้ามายังบริเวณที่เกิดเหตุพบร่องรอยของรถยนต์ที่คนร้ายขับเข้ามาเพื่อใช้บรรทุกไม้หลบหนีออกไป
นายสุธี พันธ์นาม อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 บ้านอาพืด เล่าว่า เมื่อคืน เวลาประมาณ 5 ทุ่ม ได้รับแจ้งจากลูกบ้านที่ออกไปหาส่องกบว่า ได้พบกลุ่มคนร้ายประมาณไม่ต่ำกว่า 5 คนกำลังลักลอบตัดไม้พะยูงที่บริเวณป่าช้าท้ายหมู่บ้าน จึงได้รีบแจ้งผู้ช่วยและชาวบ้านให้ออกมาช่วยกันสกัดจับ แต่คนร้ายไหวตัวทันและพากันหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด โดยพบคนร้ายใช้รถยนต์กระบะเป็นพาหนะ แต่ไม่สามารถมองเห็นว่าเป็นสีและยี่ห้ออะไรเนื่องจากแสงสว่างไม่เพียงพอ จึงได้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองทราบ โดยตนและชาวบ้านได้ทำการปิดเส้นทางเข้าออกของหมู่บ้านไว้เพื่อรอให้สว่างก่อนจึงสามารถเข้าไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุได้เพราะที่เกิดเหตุเป็นป่ารกทึบและมืด
ด้าน พ.ต.อ.สุพัฒน์ นันทะแสง ผกก.สภ.โนนนารายณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตั้งชุดสืบสวนให้ออกติดตามหาข่าวเบาะแสคนร้ายแล้ว ซึ่งในครั้งนี้นับว่าคนร้ายเหิมเกริมมาก เพราะไม้ที่ตัดอยู่ท้ายหมู่บ้านห่างออกไปเพียง 800 เมตรเท่านั้น และยังมีเส้นทางหลบหนีได้เพียงทางเดียวคือต้องวิ่งผ่านหมู่บ้านเท่านั้น แสดงว่าคนร้ายต้องมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี และอาจเข้ามาในหมู่บ้านตั้งแต่ตอนเย็น และรอจนกระทั่งมืดจึงได้ลงมือตัดไม้ แต่มีคนพบเห็นเสียก่อนจึงได้รีบพากันขนไม้ได้บางส่วนแล้วหลบหนีไป ซึ่งในเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งออกหาข่าวและติดตามตัวคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น