วันที่ 27
มิ.ย.60 ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง
เมื่อไปถึงบ้านเช่าหลังดังกล่าวก็พบกับเด็ก 5 คนพี่น้องใช้ชีวิตอยู่กันเองตามลำพังจริงๆ
คือ ด.ช.ศิมนต์ เพ็งสุข หรือน้องฟลุ๊ค อายุ 13 ปี
ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนบ้านกรวดวิทยาคาร,
ด.ช.บุญญฤทธิ์ อยู่คง น้องเฟีย อายุ 11 ขวบ
เรียนชั้น ป.5, ด.ญ.สลิลทิพย์ อยู่คง น้องข้าวฟ่าง เรียนชั้น
ป.3, ด.ญ.พรพิมล ป้อมหมั่น อายุ 6 ขวบ
เรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนสายโท 1 ใต้
และ ด.ช.อรุณ จิตวงษา หรือน้องฟอร์ด อายุ 2 ขวบเศษ
เรียนอยู่ศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์เทศบาลตลาดนิคมบ้านกรวด
โดยเด็กทั้ง
5 คนเป็นลูกของนางปณิตตา พันธ์ทา อายุ 37
ปี แต่คนละพ่อ ซึ่งหลังจากพ่อแม่แยกทางกัน พ่อก็ไปมีครอบครัวใหม่
ส่วนแม่ก็ต้องตระเวนดิ้นรนไปทำงานรับจ้างตัดอ้อยยังต่างจังหวัดเพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเองและลูกๆ
จึงต้องปล่อยให้ลูกทั้ง 5 คนใช้ชีวิตอยู่กันตามลำพังเป็นเวลาร่วม
1 ปีแล้ว นานๆ จึงจะได้กลับมา
ส่วนสาเหตุที่ต้องเช่าบ้านอยู่เพราะแม่มีภูมิลำเนาอยู่
จ.ชลบุรี ไม่มีญาติอยู่ใน จ.บุรีรัมย์
หลังแยกทางกับสามีก็ต้องขอเช่าบ้านคนในหมู่บ้านเดือนละ 500 บาทให้ลูกอยู่อาศัย
ซึ่งช่วงที่แม่ไม่อยู่ ด.ช.ศิมนต์ หรือน้องฟลุ๊ค
พี่ชายคนโต ต้องรับภาระดูแลน้องทั้ง 4
คน แต่ละวันน้องฟลุ๊คต้องตื่นแต่ตี 5 มาหุงข้าวทำกับข้าว
เตรียมเสื้อผ้าชุดนักเรียน อาบน้ำให้น้องและเดินไปส่งโรงเรียน
หลังจากนั้นตัวเองถึงจะเดินทางไปเรียนในตัวอำเภอ
หลังเลิกเรียนน้องฟลุ๊คก็จะรีบกลับมาหุงหาอาหาร ซักผ้า
ล้างจาน สอนน้องทำการบ้าน และพาน้องๆ เข้านอนจนกลายเป็นหน้าที่ที่ต้องทำประจำทุกวัน
ส่วนเงินที่นำมาซื้อกับข้าว และให้น้องๆ ไปโรงเรียนก็เป็นเงินที่แม่ส่งมาให้ 1-2 สัปดาห์ ประมาณครั้งละ 1,000 บาท
ซึ่งน้องฟลุ๊คบอกว่าต้องใช้อย่างประหยัด
บางวันก็จะแวะซื้อแกงจืด หรือกับข้าวมาอย่างเดียว แล้วหุงข้าวกินกันเองทั้ง 5 คนพี่น้องตามอัตภาพ สร้างความเวทนาสงสารแก่ชาวบ้านที่พบเห็น
บางครั้งก็จะนำข้าว อาหารมาให้บ้าง
อย่างไรก็ตาม
ถึงแม้วันนี้น้องฟลุ๊คจะมีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์เหมือนคนอื่นถูกพ่อทอดทิ้ง
แม่ก็ต้องตระเวนรับจ้างไปเรื่อย
แต่น้องฟลุ๊คก็ทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่คอยดูแลน้องทั้ง 4 คนตามลำพังได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเป็นเด็กขยัน
เรียนดี ได้เป็นตัวแทนไปแข่งขันทักษะวิชาคณิตศาสตร์ทั้งระดับเขต และระดับนานาชาติ
คว้ารางวัลเหรียญทองมาแล้ว แต่สิ่งที่น้องฟลุ๊คอยากได้คือ อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง
ทั้งอยากมีทุนการศึกษาสำหรับตนเอง และน้องทั้ง 4 คน
เพื่อจะได้เรียนสูงๆ มีความฝันอยากเป็นตำรวจเพราะเป็นอาชีพที่มั่นคง
ขณะที่พระอาจารย์อ๊อด เจ้าอาวาสวัดจันทร์นิมิต
และประธานศูนย์บรรเทาทุกข์ศิษย์วัดจันทร์ จ.เพชรบูรณ์
ซึ่งได้รับทราบข่าวขณะเดินทางมาปฏิบัติธรรมที่วัดป่าบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
ก็ได้เดินทางมาดูที่บ้านเช่าหลังดังกล่าว เมื่อเห็นสภาพก็รู้สึกหดหู่ใจที่เด็กอายุเพียง
13 ปีต้องทำหน้าที่ดูแลน้องทั้ง 4
คนตามลำพัง จึงได้นำเรื่องราวดังกล่าวไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก
ก็มีลูกศิษย์บริจาคเงินผ่านศูนย์บรรเทาทุกข์ศิษย์วัดจันทร์ มาช่วยเหลือเด็กทั้ง 5
คนในเบื้องต้นจำนวน 8,000 บาท
ทั้งนี้ยังได้ซื้อข้าวของและจักรยานมามอบแก่เด็กๆ
เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้นเท่าที่จะช่วยได้
เพราะลำพังเงินค่าแรงที่แม่ของเด็กตระเวนรับจ้างตัดอ้อยคงไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงดูทั้ง
5 คนได้
จึงอยากฝากให้หน่วยงานภาครัฐ
หรือผู้มีจิตศรัทธา ที่ต้องการทำบุญช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ก็สามารถช่วยเหลือได้
เพื่อให้เด็กๆ ได้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่านี้
หากผู้ใจบุญหรือผู้มีจิตศรัทธาต้องการช่วยเหลือเด็ก
5 พี่น้องก็สามารถติดต่อประสานได้ที่พระอาจารย์อ๊อด
หมายเลข 06-1264-7891 หรือ น.ส.นภัสสร สุขกำเนิด
กรรมการหมู่บ้าน เบอร์โทร 09-8634-2487 ได้
หรือบริจาคได้ที่ชื่อบัญชี ด.ช.ศิมนต์ เพ็งสุข หมายเลขบัญชี 020220677817 บัญชีเงินฝากเผื่อเรียก ธนาคารออมสิน สาขาบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น