หนองคาย
- ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดหนองคาย สนธิกำลังกับ ฝ่ายปกครอง
เจ้าหน้าที่ป่าไม้ อาสาพิทักษ์ป่า และทีมสื่อมวลชน
ร่วมตรวจสอบทวงคืนผืนป่าพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าพานพร้าว-ป่าแก้งไก่
อำเภอโพธิ์ตากและอำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย หลังชาวบ้านบุกรุกแผ้วถางเพื่อปลูกยางพารา
กว่า 40 ไร่
วันที่ 4 ก.ย. 60 นายเอกชัย
เทพกิจ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นค.2 (สังคม) ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
สนธิกำลังทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดหนองคาย (กองพันทหารปืนใหญ่ที่
8 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3) ฝ่ายปกครอง
เจ้าหน้าที่ป่าไม้ อาสาพิทักษ์ป่า และทีมสื่อมวลชน
ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบทวงคืนผืนป่าพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าพานพร้าว-ป่าแก้งไก่
บริเวณบ้านห้วยไซงัว ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม รอยต่อกับอำเภอโพธิ์ตาก
จังหวัดหนองคาย จำนวน 2 แปลง เนื้อที่กว่า 40
ไร่ หลังชาวบ้านบุกรุกแผ้วถางเพื่อปลูกยางพารา
จากการตรวจสอบพื้นที่ป่าดังกล่าวเป็นป่าต้นน้ำ
พบว่ายังมีการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่ม เพื่อนำไปปลูกยางพารา
และเมื่อดูภาพถ่ายทางอากาศจะเห็นผืนป่าสีเขียว ทั้งที่ข้อเท็จจริง คือ
การปลูกยางพารา ไม่ใช่ป่าธรรมชาติ และยังพบต้นไม้ที่มีร่องรอยการตัดโค่น และในระหว่างการเข้าสำรวจ
ได้เกิดการโต้เถียงกันระหว่างผู้ที่บุกรุกกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งผู้บุกรุกรับว่าตนเองรวมกับญาติๆได้เข้ามาทำกินในที่ดินแปลงนี้และพื้นที่ใกล้เคียงกันตั้งแต่รุ่นพ่อ
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำความเข้าใจเสนอให้ชาวบ้านที่บุกรุกได้คืนพื้นที่ให้กับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปฟื้นสภาพป่า
ซึ่งชาวบ้านก็ยินยอม
จากนั้นได้จับ GPS แสดงแนวเขตป่าเพื่อไม่ให้มีการบุกรุกซ้ำอีก ซึ่งปรากฏว่ามีบางคนได้เสนอเงินให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐ
เพื่อไม่ให้ดำเนินการถวงคืนผืนป่าแปลงดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ปฎิเสธ
คงเดินหน้าทวงคืนพื้นที่ป่าที่มีการบุกรุกต่อไป
เพื่อฟื้นฟูให้ป่าคืนกลับมาสภาพเดิมให้มากที่สุด และจะทำ MOU ร่วมกับชาวบ้านที่ทำกินอยู่ก่อนแล้ว
ทางด้านชาวบ้านบอกว่า สำหรับพื้นที่ที่เคยทวงคืนที่เป็นสวนยางพาราที่ผ่านมานั้น
พบว่าปัจจุบันได้มีผู้นำท้องถิ่นบางคนเข้าไปทำประโยชน์คือกรีดยางพาราในเนื้อที่กว่า
300 ไร่ แล้วนำไปขาย โดยไม่ทราบว่าเงินที่ขายนั้นนำไปใช้ในทางไหน
ไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งชาวบ้านเห็นว่า ไม่เป็นธรรมกับพวกตน
และขอให้เจ้าหน้าที่ทบทวนการทวงคืนพื้นป่าครั้งนี้ด้วย
การปฏิบัติการดังกล่าว
เป็นการบูรณาการร่วมกันของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย
เพื่อเดินหน้ายึดคืนผืนป่าจากผู้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ตามนโยบายของรัฐบาลและคสช.
เพื่อฟื้นฟูคืนความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ป่าต่อไป
ส่วนผืนป่าที่ถูกบุกรุกส่วนที่เหลือนั้น
เจ้าหน้าที่จะยึดคืนและฟื้นฟูให้ป่าคืนกลับมาสภาพเดิมให้มากที่สุด พร้อมสร้างความเข้าใจแก่ชาวบ้านที่เข้าไปบุกรุกสงวนแห่งชาติ
หากยังพบมีผู้บุกรุกแผ้วถางป่าก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น