วันนี้ (1 ส.ค. 60) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย จ.แพร่ นำโดย นายบทมากร ศรีสุวรรณ เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง และ สภ.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ตลอดจนเจ้าหน้าที่หน่วยป่าไม้ลำปาง เจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 32 ลำปาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจชุดที่ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้นำตัวผู้ต้องหา 6 คน มีทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชา พร้อมของกลางรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน บพ 2521 ลำพูน และไม้กฤษณา ซึ่งเป็นไม้หวงห้าม น้ำหนักกว่า 150 กิโลกรัม ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ดำเนินคดี
ทั้งนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดซึ่งเป็นขบวนการค้าไม้เถื่อนต่างถิ่นที่เข้ามากระทำความผิดในพื้นที่ป่าห้วยแม่ยอน เขตบ้านสันดอนแก้ว ม.1 ต.สันดอนแก้ว อ.แม่ทะ ซึ่งเป็นเขตป่าที่อยู่ในเขตรอยต่อระหว่างอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย และป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่จางฝั่งซ้ายได้ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มขบวนการค้าไม้เถื่อนจากต่างถิ่นได้เข้ามาบุกรุกป่าดังกล่าว และทำการลักลอบตัดไม้กฤษณา
ทางเจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังเข้าตรวจสอบ จนสามารถสกัดจับกลุ่มขบวนการดังกล่าวได้ขณะกำลังลำเลียงไม้กฤษณาที่เพิ่งตัดออกมาจากป่า โดยนำใส่ท้ายรถยนต์กระบะซึ่งมี นายเจี้ยะ มรุพงค์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142/1 ม.18 ต.แม่นาจร อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เป็นผู้ขับออกมาพร้อมคนงานชายอีก 5 คนซึ่งเป็นชาวกัมพูชาทั้งหมด และชาวเวียดนามอีก 5 คน ประกอบด้วย นาย Nguyen Van cuong อายุ 29 ปี นาย Hoang Neoc Minh อายุ 39 ปี นาย Nguyen Ven Trieu อายุ 43 ปี นาย Nguyen Van Thoung อายุ 23 ปี และนาย Nguyen Van Hung อายุ 28 ปี รายชื่อทั้งหมดตามหนังสือเดินทาง
ส่วนบริเวณท้ายกระบะบรรทุกไม้กฤษณา ซึ่งเป็นไม้เนื้อหอมถูกตัดให้เป็นชิ้นเล็กๆ วางเรียงอยู่ในกล่องกระดาษ 7 กล่องใหญ่ที่พร้อมแพกส่งต่อ โดยระบุข้างกล่องว่าดอกไม้สด เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในการขนส่ง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาทำ การสอบสวนก่อนที่จะนำตัวมายัง สภ.แม่ทะเพื่อส่งดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาร่วมกันทำไม้แปรรูปและมีไม้หวงห้ามไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย
สำหรับไม้กฤษณาทั้งหมดนั้นคาดว่าจะมีใบสั่งซื้อจากนายทุน จากนั้นผู้ต้องหาจึงได้ร่วมกันมาลักลอบตัดในช่วงกลางคืนก่อนที่จะลำเลียงออกมา และเตรียมบรรจุลงในกล่องเพื่อส่งไปจำหน่าย ซึ่งหากส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้จะมีราคาซื้อขายสูงกว่า 200,000 บาท หรือหากขายในประเทศไทยจะมีราคา 75,000 บาท
สำหรับไม้กฤษณาส่วนใหญ่จะนำไปสกัดเพื่อทำเป็นน้ำหอม หรือน้ำมันหอมระเหย เนื่องจากเป็นไม้เนื้อหอม ทำให้เป็นที่ต้องการของนายทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และที่ผ่านมาก็ถูกลักลอบตัดจนใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น