ศรีสะเกษ - ค้นหาตัว “สาว อบต.ศรีสะเกษ” เจอปัญหาใหญ่ เหตุพิกัดสุดท้ายสัญญาณโทรศัพท์ขาดการติดต่อเป็นดงระเบิดใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะอัยการแนะพนักงานสอบสวนให้แจ้งข้อหาพลเรือนที่เกี่ยวข้องกระทำผิดปลอมแปลงเอกสาร ลักทรัพย์หรือรับของโจร จะทำให้ผู้ต้องหานายทหาร “ร.อ.” ต้องมาขึ้นศาลยุติธรรมแทนที่จะไปขึ้นศาลทหารตามกฎหมาย

แผนผัง สัมพันธ์ บุคคล เหตุการณ์ คดีอุ้ม “สาวอบต.ศรีสะเกษ”

ร.อ.ศุภชัย ภาโส ผู้บังคับกองร้อยอาวุธเบาที่ 2 กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวนและปฏิเสธทุกข้อหา

       คืบหน้าคดีอุ้ม น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ผู้อำนวยการ (ผอ.) กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายตัวไปพร้อมรถยนต์เก๋ง ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมานานกว่า 1 เดือน ซึ่ง นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี พ่อของ น.ส.จุฑาภรณ์ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ พร้อมร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจตามยึดรถได้ที่อู่ซ่อมทำสีแห่งหนึ่งใน จ. อุบลราชธานี และวันที่ 11 ส.ค. นายทหารพระธรรมนูญนำตัว ร.อ.ศุภชัย ภาโส ผู้บังคับกองร้อยอาวุธเบาที่ 2 กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องสงสัยเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกเพื่อรับทราบข้อหาและให้การปฏิเสธทั้ง 4 ข้อกล่าวหา ขณะที่เมื่อวานนี้ (13 ส.ค.) พล.ต.ต.บุญจันทร์ นวลสาย รอง ผบช.ภ.3 ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดี ประกาศไม่เกิน 1 สัปดาห์ คดีจะมีความชัดเจน ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
       
       ล่าสุดวันนี้ (14 ส.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีนี้ นำโดย พ.ต.อ.นิพล บุญเกิด รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ ยังคงเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวน เพื่อหาพยานหลักฐานในคดีอย่างเต็มที่ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจากตำรวจภูธรภาค 3 ภาค 4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้ลงพื้นที่มาร่วมกันคลี่คลายคดี ซึ่งคดีมีความรุดหน้าไปเป็นอย่างมาก
       
       ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีเร่งติดตามหาตัว น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ซึ่งเป้าหมายอยู่ที่จุดพิกัดสัญญาณโทรศัพท์จุดสุดท้ายที่ขาดการติดต่อไป บริเวณ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ติดกับแนวชายแดนไทยประเทศเพื่อนบ้าน และจากการออกไปค้นหาตัว น.ส.จุฑาภรณ์ได้ประสบปัญหาสำคัญคือ บริเวณดังกล่าวยังคงมีกับระเบิดหลงเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปค้นหาได้ ต้องใช้ผู้ชำนาญพื้นที่เข้าไปช่วยในการค้นหา ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาพอสมควร รวมทั้งมีการประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่ให้ช่วยค้นหาอีกทางหนึ่งด้วย 

น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษา อบต. ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายตัวไปนานกว่า 1 เดือน

ร.อ.ศุภชัย ภาโส ผู้ต้องหา

      ทางด้าน นายศักดา คล้ายร่มไทร อัยการจังหวัดกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการที่ได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอดเห็นว่าคดีนี้มีพลเรือนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดด้วย ในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร ลักทรัพย์หรือรับของโจร ซึ่งตนเห็นว่าพนักงานสอบสวนคดีนี้ควรแจ้งข้อหาพลเรือนที่เข้ามามีส่วนร่วมในคดีนี้ด้วย ซึ่งหากมีพลเรือนเข้าไปมีส่วนร่วมเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ตามกฎหมายแล้วจะทำให้ ร.อ.ศุภชัย ภาโส ผู้ต้องหาคดีนี้ต้องมาขึ้นศาลยุติธรรม แทนที่จะไปขึ้นศาลทหาร

       
       ส่วนข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวนั้น จะต้องมีพฤติกรรมว่ามีการกักขังอย่างไร ผู้เสียหายได้ถูกกระทำอย่างไร ดังนั้นจะต้องหาตัว น.ส.จุฑาภรณ์ ผู้เสียหายให้พบ รวมทั้งต้องหาพยานแวดล้อมมาประกอบสำนวนคดีให้มากที่สุด เพื่อเป็นการให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป 

น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี เหยื่อ

ชุดสืบสวน ตร.ภาค 3 ,ภาค 4 และ กองปราบปราม ร่วมคลี่คลายคดี