วันนี้ (9 ส.ค. 60) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นางนิตยา สุวรรณชิน อายุ 71 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ ผู้เสียหาย พร้อมตัวแทนจากบริษัททิพยประกันชีวิต และทนายความ นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกรณีถูกตัวแทนขายประกันชีวิตของบริษัทดังกล่าว พร้อมพวกรวม 3 คน ที่รับเงินชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตจากผู้เสียหายตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมาเป็นเงินรวมประมาณ 1 ล้านบาท แต่ต่อมาตรวจสอบพบว่าตัวแทนขายประกันชีวิตกลับมีการนำเงินส่งชำระให้ทางบริษัทเพียงบางส่วนเท่านั้น แล้วทำเรื่องเป็นว่าผู้เสียหายใช้กรมธรรม์ประกันชีวิตเป็นหลักประกันกู้เงินจากบริษัทมาชำระค่าเบี้ยประกัน โดยที่มีการปลอมแปลงลายเซ็นของผู้เสียหายด้วย
ทั้งนี้ นางนิตยาเปิดเผยว่า ทำประกันชีวิตกับตัวแทนขายประกันชีวิตของบริษัททิพยประกันชีวิตให้ตัวเองและลูก รวม 3 กรมธรรม์ เริ่มตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา โดยชำระเบี้ยประกันเป็นรายปีและชำระครั้งแรกเป็นเงินประมาณ 230,000 บาท ด้วยการจ่ายเป็นเช็คให้กับตัวแทนขายประกันชีวิตที่มารับเช็คชำระเบี้ยประกันทุกปีโดยไม่เคยขาดส่ง กระทั่งช่วงปี 2559 ได้รับหนังสือจากทางบริษัทแจ้งว่าเป็นหนี้ค้างชำระค่าเบี้ยประกันทั้งที่ไม่เคยขาดส่ง จึงทำการตรวจสอบเอกสารและใบเสร็จรับเงินต่างๆ ที่ได้รับจากตัวแทนขายประกัน พร้อมทั้งสอบถามไปที่ตัวแทนขายประกันก็ได้รับการชี้แจงว่าน่าจะเกิดความเข้าใจผิดและรับจะดำเนินการแก้ไขให้
ขณะที่ต่อมาตัวแทนขายประกันชีวิตยังได้มารับเช็คชำระเบี้ยประกันชีวิตของปี 2560 ไปอีกด้วย ซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 2-3 สัปดาห์ตัวเองเกิดความไม่แน่ใจจึงตัดสินใจติดต่อสอบถามไปที่บริษัทโดยตรง และทำให้ทราบความจริงว่าตัวแทนขายประกันชีวิตไม่ได้นำเบี้ยประกันชำระให้บริษัทเลยทั้งที่รับเช็คไปจากตัวเองแล้ว รวมทั้งตรวจสอบย้อนหลังพบด้วยว่าในปีที่ผ่านๆ มาก็ไม่ได้นำเบี้ยประกันของตัวเองชำระให้กับบริษัทเต็มจำนวน แต่มีการนำชำระเพียงบางส่วนและทำเรื่องเป็นว่าตัวเองใช้กรมธรรม์กู้เงินมาชำระค่าเบี้ยทำให้ตัวเองกลายเป็นหนี้บริษัทด้วย จึงได้นำเรื่องร้องเรียนสำนักงาน คปภ.จังหวัดเชียงใหม่ และทำให้ต่อมาได้ทราบด้วยว่าตัวแทนรายนี้มีการปลอมแปลงลายมือชื่อของตัวเองและลูกด้วย ทำให้ได้รับความเสียหาย ดังนั้นจึงต้องการดำเนินการตามกฎหมายเพื่อให้ทางบริษัทประกันชีวิตและตัวแทนรายนี้รับผิดชอบ
โดยวันนี้ (9 ส.ค. 60) จากการเจรจาไกล่เกลี่ยกับทางตัวแทนจากบริษัททิพยประกันชีวิตที่เดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ ตนได้เรียกร้องให้ทางบริษัทแสดงความรับผิดชอบด้วยการคืนเงินค่าเบี้ยประกันที่ตนชำระไปแล้วตลอด 4 ปีที่ผ่านมาเป็นเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 1 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งทางตัวแทนจากบริษัททิพยประกันชีวิตได้ตกลงยอมรับในหลักการที่จะแสดงความรับผิดชอบดังกล่าว แต่จะมีการพูดคุยตกลงในรายละเอียดกันอีกครั้งหนึ่ง และเบื้องต้นได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนตัวแทนขายประกันชีวิตพร้อมพวกที่เป็นต้นเหตุนั้น ทางบริษัทจะมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยที่ตนพร้อมเป็นผู้เสียหายร่วมด้วย
นอกจากนี้ นางนิตยาระบุว่า การออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมในครั้งนี้ เนื่องจากเชื่อว่าตนไม่น่าจะเป็นผู้เสียหายแรกและรายเดียวที่ถูกกระทำเช่นนี้ จึงต้องการทำให้เป็นอุทาหรณ์และเป็นกรณีตัวอย่างสำหรับคนอื่นๆ ในการออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมและรักษาสิทธิของตัวเอง พร้อมทั้งเน้นย้ำและแนะนำคนที่ทำประกันชีวิตว่าควรหมั่นตรวจสอบเอกสารและหลักฐานต่างๆ ที่ได้รับจากตัวแทนขายประกันชีวิตอย่างละเอียดถี่ถ้วนทุกครั้ง และหากเกิดข้อสงสัยใดๆ ให้สอบถามกับทางบริษัทโดยตรง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น