วันอังคารที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2560

หนองคาย - เกษตรกรหมู่ 3 บ้านดอนก่อ ตำบลหนองปลาปาก อำเภอศรีเชียงใหม่ ได้รวมกลุ่มกันจัดทำฟาร์มชุมชนบ้านดอนก่อ โดยเลี้ยงหมูหลุม โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน




วันนี้ (22 ส.ค. 60) ที่ แหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง หมู่ 3 บ้านดอนก่อ ตำบลหนองปลาปาก อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย นายเข็มชาติ จันทร์ธิมา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านดอนก่อ ตำบลหนองปลาปาก พร้อมชาวบ้านในชุมชน ได้รวมกลุ่มกันจัดทำฟาร์มชุมชนบ้านดอนก่อ โดยเลี้ยงหมูหลุม โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรและชุมชนด้วยการน้อมนำหลักทรงงาน โครงการพระราชดำริและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรต่างๆ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานไว้ ส่งเสริมให้เกษตรกรทำการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เน้นการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต พัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐาน และเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน




นายเข็มชาติ จันทร์ธิมา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านดอนก่อ กล่าวว่า การดำเนินการตามโครงการดังกล่าว ได้แยกเป็น 2 ส่วน คือ 1.การจ้างแรงงานคนในชุมชนวันละ 305 บาท ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้กับผู้มีรายได้น้อย 2.การเลี้ยงหมูหลุมซึ่งเป็นการส่งเสริมอาชีพให้กับเกษตรกรจากที่ประสบปัญหาสินค้าจากผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำหันมาเลี้ยงหมู ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการของตลาดในพื้นที่ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและทำให้เกิดความยั่งยืนต่อไป

โดยมีการจัดทำฟาร์มชุมชนบ้านดอนก่อเลี้ยงหมูหลุม มีขนาดความกว้าง 8.00 เมตร ยาว 23.00 เมตร ภายในฟาร์มจะมีบ่อซีเมนต์ขนาดกว้าง 3.00 เมตร ยาว 5.00 เมตร จำนวน 5 หลุม แต่ละหลุมจะมีลูกหมูป่าที่อย่านมแล้ว อายุ 1 เดือนเศษ จำนวน 6 ตัว เป็นลูกหมูป่าที่เลี้ยงอยู่ในแหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านดอนก่อ หมู่ 3 ซื้อมาในราคาตัวละ 1,500 บาท ซึ่งเป็นเงินที่กลับคืนสู่ชุมชน โดยไม่ต้องไปเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อลูกหมูป่ามาจากที่อื่น โดยใช้งบประมาณดำเนินการทั้งสิ้น 11,1104 บาท




ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านดอนก่อ ยังกล่าวปิดท้ายว่า สิ่งที่แตกต่างจากชุมชนอื่นๆ ก็คือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำขึ้นมานั้น จะมาจากภายในชุมชน การเลี้ยงหมูหลุมจะเป็นกำไรของคนในชุมชนจะได้รับ เพราะต้นทุนต่ำมาก และประหยัดค่าอาหาร ค่าน้ำล้างคอก อีกทั้งยังได้ปุ๋ยหมักอย่างดีไปใส่นาหรือสวนได้ โดยไม่ต้องกลับกองให้เหนื่อยอีก ขณะเดียวกันหมูที่เลี้ยงก็ไม่มีอาการเครียด หรือส่งเสียงร้องสร้างความรำคาญ เพราะพื้นคอกเป็นแกลบผสมดินที่มีความอ่อน นุ่ม เวลาหมูเดิน หรือนอนก็ไม่เจ็บ และสามารถขุดคุ้ยเล่นได้ตามสัญชาติญาน การเลี้ยงแบบนี้ไม่มีกลิ่นมารบกวนเลย แม้จะเข้าไปอยู่ในคอกหมูก็ยังไม่ได้กลิ่น เนื่องเพราะจุลินทรีย์ที่ผสมเข้าไปให้หมูกิน และที่ใช้ราดวัสดุพื้นคอกนั่นเอง จึงเป็นการตอบโจทย์ได้เลยว่า การดำเนินการดังกล่าว จะทำให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และทำให้เกิดความยั่งยืนต่อไป.




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หนองคาย จัดแข่งขันกีฬาภายในโรงเรียน “นาน้ำพายเกมส์”

หนองคาย – โรงเรียนบ้านนาน้ำพาย จัดแข่งขันกีฬาภายในโรงเรียน “นาน้ำพายเกมส์” ประจำปีการศึกษา 2560         วันนี้ ( 27 ธ.ค. 2560 ) ที...