วันนี้ (2 ส.ค. 60) คืบหน้ากรณีตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) เชียงราย พยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมให้นายธนกร เพิ่มพันธ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 ม.9 ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย มอบตัว
หลังเช่ารถจากบริษัทเอกชนรายหนึ่งแล้วไม่ส่งคืน จนถูกแจ้งความติดตามหาตัว ก่อนจะพบว่าไปซ่อนตัวภายในห้องพักโรงแรมคานาอันเพลส ม.19 ต.รอบเวียง อ.เมือง และใช้อาวุธปืนยิงขู่เจ้าหน้าที่หลายนัด ตั้งแต่เวลา 19.00 น.คืนวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น แต่ผ่านมานานกว่า 20 ชั่วโมงกลับไม่เป็นผล
เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญพี่สาว และหญิงสาวที่นายธนกรอ้างว่าเป็นภรรยา ให้เดินทางมาเจรจา โดยเฉพาะหญิงสาวคนดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตามไปจนพบตัวทราบว่าทำงานอยู่ที่ ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย แต่เมื่อไปถึงก็ทราบว่าเป็นเพียงอดีตแฟนเก่าที่เลิกรากันไปแล้ว และได้กลับไปอยู่กินกับสามีคนเดิมจนมีครอบครัวแล้วด้วย
เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดให้เจรจาผ่านโทรศัพท์มือถือไปนานหลายชั่วโมงนายธนกรก็ยังไม่ยอมมอบตัว แต่มีท่าทีอ่อนลง โดยโยนซองปืนติดเข็มขัด และกระสุนให้เจ้าหน้าที่รวม 30 นัด แต่นายธนกรยังเก็บอาวุธปืนพกสั้น และกระสุนอีกบางส่วนไว้กับตัวเองอยู่
กระทั่งในเวลา 15.00 น. นายธนกรก็ยอมจะมอบตัว โดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าจะเดินออกจากห้องพักไปยังหน้าโรงแรม แต่เมื่อถึงเวลากลับพบว่านายธนกรยังถืออาวุธปืนจ่อที่คอตัวเองตลอดเวลา ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่กล้าเข้าประชิด
ต่อมานายธนกรขอให้รถของหน่วยกู้ภัยที่ตัวเองเคยทำงานด้วย รับออกจากโรงแรม ตรงไปยังสนามกีฬากลาง จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจนำกำลังเข้าจับกุมขณะที่รถจอดอยู่ภายในสนามกีฬากลางจังหวัด โดยเข้าเปิดประตู และแย่งปืนจากมือ แต่นายธนกรพยายามต่อสู้ขัดขืน ทำให้ปืนลั่นจำนวน 1 นัด แต่โชคดีกระสุนไม่ถูกใคร
จากนั้นเจ้าหน้าที่ที่อยู่โดยรอบจึงวิ่งกรูเข้าไปช่วยแกะปืนจากมือนายธนกร นาน 4-5 นาที พร้อมกับปิดกั้นเส้นทาง-ล้อมรถเอาไว้ไม่ให้หลบหนี กระทั่งสามารถควบคุมตัวนายธนกรเอาไว้ได้ในสภาพที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บเล็กน้อยและนายธนกรเองก็มีรอยถลอกที่บริเวณใบหน้า ก่อนควบคุมส่ง สภ.เมืองเชียงราย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.กิตติพงษ์ สุขวัฒนพันธ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงราย กล่าวว่า เบื้องต้นทางตำรวจจะแจ้งข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน ที่สาธารณะ และยิงอาวุธปืนในพื้นที่ชุมชนไว้ก่อน ส่วนคดีอื่นๆ จะมีการสอบสวนปากคำก่อนค่อยดำเนินการต่อไป เพราะเบื้องต้นก่อนเกิดเหตุควบคุมตัวได้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่ามีการยักยอกทรัพย์โดยเช่ารถไปแล้วนำไปใช้ในทางทุจริต กระทั่งเจ้าหน้าที่สายตรวจ 191 ติดตามจนพบตัวที่โรงแรม จากนั้นก็มีการยิงปืนข่มขู่ และขังตัวเองไว้ในห้องพักดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น