จากกรณีที่มี นายปุ้มปุ้ย เกษานุช
อายุ 24 ปี ชาวหนองคาย ก่อเหตุใช้มีดบังคับข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย ก่อนลงมือข่มขืน
น.ส.เอ นามสมมติ ผู้ช่วยเหลือคนไข้ เหตุเกิดที่ซอกตึกหลังอาคารสำนักงานซักฟอก
อาคารด้านหลังโรงพยาบาลหนองคาย เมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.30 น.
วันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา
ซึ่งตำรวจ สภ.เมืองหนองคายได้ขออนุมัติศาลจังหวัดหนองคายออกหมายจับ ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ตามรายละเอียดที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (19 ก.ค. 60) พ.ต.ท.อรรถศักดิ์ ศิริพานิช รอง ผกก.(ป.) สภ.เมืองหนองคาย ได้นำเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง หลังจากทราบว่านายปุ้มปุ้ยขโมยสกูตเตอร์ที่ชมรมสกูตเตอร์จอดไว้ที่ท่าน้ำวัดศรีบุญเรือง พร้อมสอบถามนายนิพนธ์ พลวิเศษ เจ้าของสกูตเตอร์และผู้ดูแลชมรมสกูตเตอร์ ทราบว่าช่วงเช้าของวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมามีชาวประมงมาหา ถามว่ามีสกูตเตอร์หายไปหรือไม่ เนื่องจากขณะที่ไปหาปลากลางแม่น้ำโขงเห็นสกูตเตอร์จอดเกยฝั่งที่น้ำโขงฝั่งลาว
ตนจึงได้ไปตรวจสอบพบว่าสกูตเตอร์ 1 คัน และเสื้อชูชีพ 1 ตัวหายไปจริง จึงได้ไปติดต่อรับกลับคืนมา ซึ่งมั่นใจว่าน่าจะเป็นนายปุ้มปุ้ยขโมยไป เพราะปกตินายปุ้มปุ้ยจะชอบมานอนเล่นที่วัดศรีบุญเรืองแล้วเห็นพวกตนเล่นสกูตเตอร์บ่อยครั้ง บางครั้งก็จะมานั่งตกปลาที่แพ
พวกตนก็จะให้ช่วยเข็นเรือออกให้บางครั้ง เพราะนายปุ้มปุ้ยเป็นคนตัวใหญ่ แรงเยอะ คาดว่านายปุ้มปุ้ยจะแอบตัดเชือกที่มัดสกูตเตอร์ออก แล้วสวมชูชีพใช้ไม้พายเรือพายเรือข้ามแม่น้ำโขงไปหาพ่อที่ฝั่งลาว
ซึ่งตำรวจ สภ.เมืองหนองคายได้ขออนุมัติศาลจังหวัดหนองคายออกหมายจับ ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ตามรายละเอียดที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (19 ก.ค. 60) พ.ต.ท.อรรถศักดิ์ ศิริพานิช รอง ผกก.(ป.) สภ.เมืองหนองคาย ได้นำเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง หลังจากทราบว่านายปุ้มปุ้ยขโมยสกูตเตอร์ที่ชมรมสกูตเตอร์จอดไว้ที่ท่าน้ำวัดศรีบุญเรือง พร้อมสอบถามนายนิพนธ์ พลวิเศษ เจ้าของสกูตเตอร์และผู้ดูแลชมรมสกูตเตอร์ ทราบว่าช่วงเช้าของวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมามีชาวประมงมาหา ถามว่ามีสกูตเตอร์หายไปหรือไม่ เนื่องจากขณะที่ไปหาปลากลางแม่น้ำโขงเห็นสกูตเตอร์จอดเกยฝั่งที่น้ำโขงฝั่งลาว
ตนจึงได้ไปตรวจสอบพบว่าสกูตเตอร์ 1 คัน และเสื้อชูชีพ 1 ตัวหายไปจริง จึงได้ไปติดต่อรับกลับคืนมา ซึ่งมั่นใจว่าน่าจะเป็นนายปุ้มปุ้ยขโมยไป เพราะปกตินายปุ้มปุ้ยจะชอบมานอนเล่นที่วัดศรีบุญเรืองแล้วเห็นพวกตนเล่นสกูตเตอร์บ่อยครั้ง บางครั้งก็จะมานั่งตกปลาที่แพ
พวกตนก็จะให้ช่วยเข็นเรือออกให้บางครั้ง เพราะนายปุ้มปุ้ยเป็นคนตัวใหญ่ แรงเยอะ คาดว่านายปุ้มปุ้ยจะแอบตัดเชือกที่มัดสกูตเตอร์ออก แล้วสวมชูชีพใช้ไม้พายเรือพายเรือข้ามแม่น้ำโขงไปหาพ่อที่ฝั่งลาว
จากนั้นปี 2558 นายปุ้มปุ้ยกลับมาหนองคาย ตำรวจตามจับตัวได้ ส่งเข้าเรือนจำหนองคายไม่ถึง 4 เดือนก็ถูกปล่อยตัวออกมา โดยให้เหตุผลว่ามีอาการทางจิต จากนั้นเมื่อเดือน พ.ค. 60 ก่อเหตุข่มขืนหญิงคนหนึ่งขณะไปหาเก็บปูตามทุ่งนา และล่าสุดมาก่อเหตุกับผู้ช่วยเหลือคนไข้
พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผบก.ภ.จ.หนองคาย ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส ผกก.สภ.เมืองหนองคาย และชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบทุกแห่งที่คาดว่านายปุ้มปุ้ยจะหลบหนี รวมทั้งประสาน พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย ช่วยประสานกับทางการลาวเพื่อติดตามจับกุม หากพบว่านายปุ้มปุ้ยข้ามไปหาพ่อ กบดานที่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้ติดตามคดีอย่างใกล้ชิด ซึ่งได้รับแจ้งว่าทางการลาวพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น