วันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

หนองคาย – อดีตช่างอิเล็คทรอนิคที่ประเทศไต้หวัน หวนกลับบ้านเกิด คิดทำผลิตภัณฑ์เครื่องครัว หวังว่าสักวันอาชีพนี้จะทำให้กับคนในหมู่บ้านทำผลิตและจำหน่ายสร้างรายได้ เริ่มจากผลิตภัณฑ์จากเศษไม้ ปัจจุบันกลายเป็นผลิตภันฑ์เครื่องครัวจากไม้สักทอง สร้างรายได้ 3-4 แสนบาทต่อปี


       ที่กลุ่มหัตถกรรมงานไม้ภูมิปัญญาชาวบ้าน เลขที่ 54 บ้านดอนเมือง หมู่ 3 ตำบลโคกคอน อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายภคพล กองมณี อายุ 41 ปี กล่าวว่า ในอดีตตนเคยเป็นช่างอิเล็คทรอนิคที่ประเทศไต้หวัน ในขณะที่กำลังเดินทางไปทำงานที่ประเทศไต้หวัน เครื่องบินได้ไปจอดที่ประเทศฮ่องกง ได้พบเห็นผลิตภัณฑ์ไม้ในสนามบิน เกิดความสนใจว่าสักวันจะนำเอาอาชีพนี้มาให้กับคนในหมู่บ้านผลิตและจำหน่าย
       
       หลังจากที่กลับจากไต้หวันเมื่อปี 2555 เริ่มมาเรียนรู้กับเพื่อนที่กลุ่มงานชุมชนแกะสลักไม้ดอนขมและโคกคอน แต่ไม่ได้รับความร่วมมือมากนัก จึงไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมที่โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ในศูนย์ศิลปาชีพของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ(ในรัชกาลที่ 9) ทำอยู่ 15 วันก็เกิดแนวคิดที่จะรวมกลุ่มชาวบ้าน จึงได้ออกมาจัดตั้งกลุ่มหัตถกรรมงานไม้ภูมิปัญญาชาวบ้าน ขึ้น โดยมีสามชิกทั้งสิ้น 50 คน ทำหัตถกรรมงานไม้เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องครัว เช่น ทัพพี ตะหลิว ช้อน และส้อมต่างๆ เป็นวัสดุที่ทำจากเศษไม้กันเกราหรือไม้มันปลา ที่ยืนต้นตายหรือจากตอกลางทุ่งนา ที่เหลือจากการใช้ประโยชน์แล้ว


       เริ่มแรกก็ออกไปขายตามตลาดนัดทั้งในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ อำเภอโพธิ์ตาก และอำเภอแศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ก็พอขายได้วันละ 500-1,000 บาท  ครั้นพัฒนาชุมชนมาเห็นที่ตลาดนัดก็ได้บอกให้ตนไปลงทะเบียนขึ้นเป็นสินค้า O-Top หลังจากนั้นไม่นานพัฒนาชุมชนก็พาไปออกงานที่ห้างสัพสินค้าที่กรุงเทพฯ เอาผลิตภัณฑ์ไปทั้งหมด 800 ชิ้น ขายในราคา 50-60 บาท ตนตื่นเต้นมากเพราะไม่เคยขายในห้างใหญ่ๆ และก็กลัวว่าจะขายหมดหรือเปล่า ปรากฏว่าได้รับความสนใจเป็นอย่างมากและขายหมดเกลี้ยงภายในเวลา 4 วัน ได้เงินมาเกือบ 4 หมื่นบาท

       ต่อมาพัฒนาชุมชนก็พาไปออกงานทั่วประเทศ รวมทั้งที่ลาว เวียดนาม จีน ได้เงินกว่า 1 แสนบาท และได้มีโอกาสไปออกงานที่เมืองทองธานี ได้เห็นบูธต่างๆทำผลิตภัณฑ์ที่มีฝีมือในการสร้างสรรค์ผลงานที่สวนงามมาก แล้วนำเอามาพัฒนาปรับปรุงใหม่ จากที่เคยทำจากเศษไม้กันเกราหรือไม้มันปลาที่เริ่มหายาก ก็เปลี่ยนมาเป็นไม้สักทองแทน เป็นไม้สักทองที่ได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จนมีออเดอร์สั่งจากพ่อค้าแม่ค้าทั้งในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี ตาก ลพบุรี สงขลา อุดร ขอนแก่น  ขายดีมาก โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าในกรุงเทพฯจะสั่งซื้อเยอะจนผลิตไม่ทัน สร้างรายได้ให้ตนถึง 4 หมื่นบาทต่อเดือน หรือ 3-4 แสนบาทต่อปี 


       นายภคพล กล่าวอีกว่า ปัจจุปัญตนได้ขยายโรงงานจากกระต๊อบเล็กๆ เป็นโรงงานที่มีพื้นที่เพียงพอต่อการทำงานของชาวบ้าน ที่มาช่วยงานจากการว่างเว้นการทำนา ซึ่งชาวบ้านที่มาช่วยงานจะมีรายได้แต่ละคนอยู่ที่ 250-300 บาทต่อวัน แล้วแต่ความชำนาญในการทำของแต่ละคน นอกจากนั้นยังมีเด็กนักเรียนในพื้นที่มาช่วยทำงานในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือปิดเทอม โดยเด็กนักเรียนจะได้วันละ 200 บาท ซึ่งแต่ละคนที่มาทำก็จะมีเงินไปใช้จ่ายโดยไม่ต้องขอเงินผู้ปกครองไปโรงเรียนอีกด้วย เป็นความภาคภูมิใจที่สมารถทำชาวบ้านในหมู่บ้านได้มีรายได้ เป็นกำลังใจทำงานมาจนถึงทุกวันนี้

       ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ไม้ จะเอาเลื่อยไม้ผ่าให้เป็นแผ่น ใช้แบบทาบ นำไปตัดด้วยใบตัดและปาดขึ้นรูป ส่วนเว้าและโค้งต่างๆด้วยฝีมือ เข้าสู่เครื่องขัดกระดาษทรายเบอร์ต่างๆ และทาน้ำมันงา จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องครัวที่มีความแข็งแรง คงทน สามารถสัมผัสกับอาหารได้เป็นอย่างดี มีอายุการใช้นาน.






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หนองคาย จัดแข่งขันกีฬาภายในโรงเรียน “นาน้ำพายเกมส์”

หนองคาย – โรงเรียนบ้านนาน้ำพาย จัดแข่งขันกีฬาภายในโรงเรียน “นาน้ำพายเกมส์” ประจำปีการศึกษา 2560         วันนี้ ( 27 ธ.ค. 2560 ) ที...