ล่าสุด นายณัฐนิน กิ่งแก้ว สารวัตรแขวงบำรุงทางลำนารายณ์ เปิดเผยว่า หลังระดมกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักร รถแบ็กโฮ เข้าเปิดทางเร่งนำดินโคลนเขาพังเหยที่ถล่มลงมาปิดทางเข้าออกอุโมงค์ทางรอดรถไฟต่อเนื่องกว่า 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะนี้สามารถเปิดทางนำดินออกได้ทั้งหมดแล้ว และเข้าไปสำรวจภายในอุโมงค์ว่ามีการทรุดตัวและมีความมั่นคงพอที่จะเปิดให้รถไฟวิ่งผ่านต่อได้หรือไม่ ซึ่งปรากฏว่าตัวโครงสร้างอุโมงค์ยังมีความแข็งแรงพอที่จะกลับมาใช้การได้ตามปกติ แต่ตลอดทั้งวันนี้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดให้ชัดเจนอีกครั้ง จึงคาดว่าจะสามารถเปิดให้เดินรถผ่านได้ตามปกติในช่วงเย็นวันนี้ (28 ก.ค.) หรือไม่เกินเวลา 18.00 น.
น้ำยังไหลทะลักท่วมหมู่บ้าน และโรงเรียนโนนส้มกบบ้านแก้ง สูงกว่า 1 เมตร ซึ่งแม้วันนี้เป็นวันหยุด ทางคณะครู ผู้บริหารโรงเรียน พร้อมคณะผู้ปกครองและนักเรียน กว่า 200 คน ต้องพากันสำรวจความเสียหายภายในโรงเรียน ที่น้ำทะลักเข้าท่วมซัดกำแพงโรงเรียนพังเสียหาย และท่วมห้องเรียนชั้นแรกทำให้อุปกรณ์การเรียนการสอนบางส่วนได้รับความเสียหายเบื้องต้นแล้วนับแสนบาท จึงต้องช่วยกันเร่งขนอุปกรณ์ สิ่งของมีค่า ประเภทเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ขึ้นมาเก็บไว้บนตัวอาคารสูง
ทั้งนี้ คาดว่าจะต้องใช้เวลาระบายน้ำออกจากพื้นที่นานไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์ และทางโรงเรียนต้องประกาศหยุดการเรียนการสอนไปถึงสัปดาห์หน้า เพื่อให้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งมาหาแนวทางระบายน้ำออกจากชุมชนและโรงเรียนโดยด่วนต่อไป
นางบุญทม กล่องศรี อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 4 ต.บ้านแก้ง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ หนึ่งในเกษตรกรที่ถูกน้ำท่วมไร่นา กล่าวว่า ปีนี้ลงมือทำนาข้าว ไร่มันไปรวม 20 ไร่ ตอนนี้ได้รับความเสียหายถูกน้ำท่วมทั้งหมด รวมถึงไร่อ้อยเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันก็ได้รับความเสียทั้งหมดเช่นกัน ไม่ทราบว่าจะหาเงินจากที่ไหนไปใช้หนี้ ธ.ก.ส.ที่กู้มาลงทุนทำไร่ทำนาไปก่อนหน้านี้นับแสนบาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น