หนองคาย – ชื้นชมหนุ่มวัย 30 ปี พิการต้นแขนอ่อนแรงขารีบมากความสามารถ
เป็นช่างซ่อมโทรศัพท์มือถือ ฝึกฝนด้วยตัวเองมาตั้งแต่อายุ 12 ปี เผยไม่อายใคร
ไม่คิดท้อแท้ท้อใจ ภาคภูมิใจกระกอบอาชีพสุจริต แต่น่าเวทนาพ่อแม่อย่าร้างตั้งแต่คลอด
หนีไปมีครอบครัวใหม่ ทิ้งให้น้ากับยายเลี้ยง ซ้ำอยู่บ้านหลังโทรมๆหลังคาก็เริ่มจะพัง
ที่บ้านเลขที่ 182
หมู่ที่ 5 บ้านพฤกษาหาร ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายตฤณ คำภูแก้ว อายุ 30 ปี พิการต้นแขนอ่อนแรงขารีบตั้งแต่อายุได้
3 เดือน แต่มากด้วยความสามารถ เขียนอ่านเองโดยไม่ต้องมีคนมาสอน เป็นอดีตนักจัดรายการวิทยุชุมชนของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพสต.)ตำบลนาข่า
และลงมือซ่อมวิทยุและโทรศัพท์อย่างคล่องแคล่วจากความรู้ที่ศึกษาด้วยตนเอง ไม่เคยคิดอายใครที่ตัวเองเกิดมาพิการและไม่คิดท้อแท้ท้อถอย
ภาคภูมิใจในการประกอบอาชีพสุจริต
นางสาวพิกุล คำภูแก้ว อายุ 47 ปี
อยู่บ้านเลชที่ 102 หมู่ 5 บ้านพฤกษาหาร
ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นน้าสาวของนายกฤต กล่าวว่า ตอนที่แม่ของนายตฤณคลอดออกมาใหม่ๆก็ยังมีแขนขาดีเป็นปกติทั่วไป
พออายุได้ 3 เดือนก็ป่วยเป็นโรคปอดบวม จึงนำไปรักษาที่โรงพยาบาลบ้านเผือ โดยการให้น้ำเกลืออยู่ 1 เดือนและมีผ้าพันแขนพันขาไว้ ซึ่งช่วงนั้นกำลังหัดคลาน หลังออกจากโรงพยาบาลหลานของตนก็เดินไม่ได้
พอเริ่มโตขึ้นก็รองยกดูปรากฏว่าเอวของหลานชายใช้การไม่ได้และเดินไม่ได้
เคยรักษาทุกวิถีทางแล้วก็ไม่หาย จนกลายเป็นคนพิการเท่าทุกวันนี้ พ่อกับแม่ก็มาอย่าร้างกันตั้งแต่เกิดและหนีไปมีครอบครัวใหม่กันหมดตั้งแต่นายตฤณเกิด และก็ไม่เคยมาเยี่ยมลูกของตนเองเลยสักครั้ง มีน้ากับยายเป็นคนเลี้ยงดูเลื้อยมาตั้งแต่แบเบาะ
บ้านที่นายตฤณอยู่ก็เป็นบ้านพี่สาวตน ก็คือป้าของนายตฤณ พอแต่งงานไปก็ไปอยู่กับสามีที่
จ.กำแพงเพชร โดยพี่สาวตนได้โอนบ้านและที่ดินให้นายตฤณไปแล้ว
ที่ผ่านมาก็ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาให้ความช่วยเหลือ มีแต่
อบต.นาข่าที่มาทำห้องน้ำให้แต่เป็นแบบนั่งยอง
ซึ่งอยากได้แบบชักโครกเพื่อความสะดวกในการขับถ่าย
ส่วนทางด้านนายตฤณ ได้กล่าวว่า เมื่อก่อนตนนั้นซ่อมวิทยุ
โดยเริ่มศึกษามาตั้งแต่อายุได้ 12 ปี จากนั้นตนก็ศึกษาเรื่องโทรศัพท์มือถือ
ซึ่งจะศึกษารายละเอียดทุกอย่างของโทรศัพท์มือถือทุกรุ่นทุกยี่ฮ้อและก็รองลงมือซ่อมดู
ปรากฏว่าซ่อมได้ทั้งหมด ตนจะศึกษาด้วยตัวเองโดยไม่มีใครสอนทั้งอ่านเขียนหนังสือมาตั้งแต่เด็กๆ
เมื่อเวลาว่างก็ไปเป็นนักจัดรายการวิทยุชุมชนของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพสต.)ตำบลนาข่าแบบจิตอาสา
ในช่วงจัดรายการนั้นตนก็เรียน กศน.ไปด้วย และตอนนี้ตนก็จบ ม.6 แล้ว
แต่ว่าตอนนี้เลิกทำแล้วเพราะสถานีวิทยุปิดลง ตอนนี้ต้องอาศัยเงินผู้พิการ 800 บาทใช้
ยามเจ็บป่วยก็ไม่มีเงินไปรักษา ส่วนอาชีพซ่อมโทรศัพท์มือถือมีมาซ่อมบ้างประปลายไม่มีทุกวัน
คิดค่าซ่อมก็ถูกกว่าชาวบ้านหน่อย 10-20 บาทแค่นั้น บางคนเขาสงสารก็ให้ 50 บาท มันก็พอได้กินได้ใช้ไปวันๆ
ตอนนี้ตนต้องการอยากได้โน๊ตบุ๊กซักเครื่องเพื่อไว้ทำงานทางด้านตัดต่อวีดีโอ
อัดสปอร์ตโฆษณา และเอาไว้ทำงานของตนเองเพื่อศึกษาข้อมูลต่างๆทั่วไป ทั้งนี้ตนก็อยากฝากถึงคนที่กำลังท้อแท้ในชีวิตอยู่
อย่างพึ่งท้อแท้ จงลุกขึ้นสู้ คือต้องให้กำลังใจตัวเองอย่าไปผึ้งคนอื่น เพราะเขาจะทำให้เราผิดหวัง
เหมือนผมที่ไม่เคยคิดน้อยใจหรือท้อแท้ในตนเอง ไม่เคยคิดอายใครที่ตัวเองเกิดมาพิการและไม่คิดท้อถอย
ภาคภูมิใจในการประกอบอาชีพสุจริต
นายตฤณ ยังกล่าวอีกว่า
อีกอย่างที่ตนอยากได้ก็คือ”อยากซ่อมบ้านใหม่” บ้านที่อยู่หลังคาก็เริ่มพังแล้วเพราะปลวกกินตะปูยึดหลังคาก็หลุด
บางครั้งพายุมาเพื่อนๆที่มาเล่นด้วยต้องช่วยกันดึงหลังคาเอาไว้เพราะกลัวจะปลิวออกจากตัวบ้าน
หลังคาก็ต้องใช้อิฐทับเอาไว้ บ้านก็ต่ำ บางวันมีตะขาบเข้ามาในบ้านโดนกัดมาแล้วสองสามครั้งแล้วต้องโทรศัพท์หาน้ามาช่วย
ที่ออกมาอยู่ส่วนตัวเพราะต้องการทำงาน เพราะต้องใช้สมาธิในการซ่อมโทรศัพท์.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น