เมื่อเวลา 10.00 น.
วันนี้( 6 มิ.ย. 60) นายสุชาติ นพวรรณ
ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้ตรวจติดตามการบูรณะและขุดค้นซากโบราณสถาน
ภายในวัดพระธาตุบุ ต.ปะโค อ.เมืองหนองคาย โดยมีพระครูประทีป เจติยาภิบาล
เจ้าอาวาสวัดพระธาตุบุ และนายศุภชัย นวการพิศุทธิ์ นักโบราณคดี ร่วมด้วย
ซึ่งพบว่าหลังจากได้ลงมือขุดค้นตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.เป็นต้นมา
มีความคืบหน้าไปมากกว่าร้อยละ 90
ทั้งการพบร่องรอยทางศิลปกรรมท้องถิ่นดั้งเดิม การก่อสร้างเจดีย์เก่าแก่ที่พังทลายลงหลังจากเวลาล่วงเลย มีการพบเครื่องภาชนะหลายอย่าง อาทิ หม้อ ชาม ถ้วย กล้องสูบยา คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้
นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า มีกลุ่มโบราณสถานสำคัญทางประวัติศาสตร์ภายในวัดแห่งนี้ 3 จุดใหญ่ จึงให้วัฒนธรรมจังหวัดหนองคายดำเนินการบูรณะเพื่อให้เป็นแหล่งโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดหนองคาย และพบว่าการดำเนินการเป็นไปด้วยดี มีหลักฐานต่าง ๆ เชื่อมโยงความเป็นไปในอดีตมาตั้งแต่ราว 300 ปีก่อน พร้อมกันนี้ยังได้จัดสรรงบพัฒนาจังหวัดทำถนนทางเข้ามายังพื้นที่ให้สะดวกมากขึ้นด้วย
ทั้งการพบร่องรอยทางศิลปกรรมท้องถิ่นดั้งเดิม การก่อสร้างเจดีย์เก่าแก่ที่พังทลายลงหลังจากเวลาล่วงเลย มีการพบเครื่องภาชนะหลายอย่าง อาทิ หม้อ ชาม ถ้วย กล้องสูบยา คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้
นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า มีกลุ่มโบราณสถานสำคัญทางประวัติศาสตร์ภายในวัดแห่งนี้ 3 จุดใหญ่ จึงให้วัฒนธรรมจังหวัดหนองคายดำเนินการบูรณะเพื่อให้เป็นแหล่งโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดหนองคาย และพบว่าการดำเนินการเป็นไปด้วยดี มีหลักฐานต่าง ๆ เชื่อมโยงความเป็นไปในอดีตมาตั้งแต่ราว 300 ปีก่อน พร้อมกันนี้ยังได้จัดสรรงบพัฒนาจังหวัดทำถนนทางเข้ามายังพื้นที่ให้สะดวกมากขึ้นด้วย
ด้านนายศุภชัย
นวการพิศุทธิ์ นักโบราณคดี กล่าวว่า จากการศึกษาค้นคว้า สันนิษฐานว่า
กลุ่มโบราณสถานที่พบในวัดพระธาตุบุนี้ น่าจะมีอายุราว 350 ปี ใกล้เคียงกับตำนานอุรังคธาตุ
ที่สร้างโดยพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิราช กษัตริย์ล้านช้าง ส่วนเครื่องภาชนะที่พบสันนิษฐานว่าจะใช้บรรจุอัฐิ
โดยชามที่พบคล้ายกับยุคราชวงศ์หมิงของจีน เหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ว่าในสมัยก่อนมีการค้าขายกันระหว่างประเทศ ซึ่งจะได้เก็บรวบรวมข้อมูลให้กับทางจังหวัดต่อไป.
โดยชามที่พบคล้ายกับยุคราชวงศ์หมิงของจีน เหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ว่าในสมัยก่อนมีการค้าขายกันระหว่างประเทศ ซึ่งจะได้เก็บรวบรวมข้อมูลให้กับทางจังหวัดต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น