วันที่ 26
มิ.ย. 60 ที่เมรุวัดพูลสุขวราราม บ้านหนองหิ้ง
ต.ท่ากกแดง อ.เซกา จ.บึงกาฬ ได้มีพิธีฌาปนกิจศพนายพีระพันธ์ หงษ์ทวี อายุ 54
ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ที่ 8 บ้านศรีอำนวยพร ต.ท่ากกแดง ซึ่งบ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามวัดพูลสุขวราราม
มีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
ท่ามกลางเสียงร้องไห้ระงมของลูกสาวผู้ตาย 2 คน คือ
เด็กหญิงอาทิตยา หรือจ๋อมแจ๋ม หงษ์ทวี อายุ 9 ขวบ
นักเรียนชั้น ป.4 และเด็กหญิงจิรดา หรือเจี๊ยบ หงษ์ทวี อายุ 7
ขวบ นักเรียนชั้น ป.1 ทั้งคู่เรียนอยู่โรงเรียนชุมชนบ้านห้องหิ้ง
ก่อนหน้าพิธีฌาปนกิจศพ
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 60 ร.ต.อ.กนกพล
แก้วธานี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เซกา อ.เซกา รับแจ้งจากนางดารณี ไกรทัศน์
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ว่ามีคนเสียชีวิตในห้องน้ำที่บ้านเลขที่
109 หมู่ที่ 8 บ้านศรีอำนวย
จึงไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พญ.วริศา ชื่นจิตกุลถาวร แพทย์โรงพยาบาลเซกา
และมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์มังกรหนองหิ้ง
พบศพนายพีระพันธ์
หงษ์ทวี อายุ 54 ปี
สภาพศพนอนหงายนุ่งเพียงผ้าขาวม้าผืนเดียวอยู่ข้างอ่างน้ำ
ไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือบาดแผลใดๆ ในร่างกาย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10
ชั่วโมง มีเด็กหญิงจ๋อมแจ๋ม หรืออาทิตยา อายุ 9 ขวบ และเด็กหญิงจิรดา อายุ 7 ขวบ
น้องสาวร้องไห้ระงมอย่างน่าเวทนาอยู่ข้างๆ ศพผู้เป็นพ่อ และมีจดหมายเขียนเอาไว้ 3
ฉบับวางอยู่ใกล้ศีรษะนายพีระพันธ์
ฉบับแรกเขียนว่า “ทำไมคุณพ่อไม่ตื่นสักที หนูคิดถึงคุณพ่อมาก ทำไมคุณพ่อไม่ตื่น
หรือว่าคุณพ่อไม่รักหนู ลาก่อน” ฉบับที่ 2 “โอ้คุณพ่อที่รัก ขออย่าให้คุณพ่อตาย ขอให้คุณพ่อฟื้น
ขอให้อยู่กับหนูตลอดไป และขอให้เป็นจริง สาธุ” และฉบับที่ 3
หัวกระดาษมีวาดรูปการ์ตูนเป็นรูป 3 พี่น้องโดยมีน้องชายคนเล็กวัยเพียงขวบกว่าๆ
ยืนอยู่ตรงกลาง มีข้อความว่า “หนูร้องไห้ไม่หยุด
เพราะคุณพ่อไม่รักหนูสามคน” ทำเอาคนที่เห็นจดหมาย 3 ฉบับนี้แล้วต่างน้ำตาซึมไปตามๆ กัน
เด็กหญิงอาทิตยาเล่าว่า “พ่อแม่ทะเลาะกันทิ้งให้พวกหนู 3 คนอยู่กับพ่อเมื่อ 3
เดือนก่อน พ่อจะเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามไว้ขายในบ่อซีเมนต์หลังบ้าน
แต่กุ้งยังไม่โตพอขาย และก็ตายไปหลายตัวจึงเครียดดื่มเหล้า
พอเมามักจะไปอ้วกในห้องน้ำ หนูกับน้องเจี๊ยบจะเป็นคนคอยเอาผ้าไปเช็ดหน้าเช็ดตัวให้
คืนวันเสาร์ก็ทำเช่นเดียวกัน พ่อกรนเสียงดังแล้วเงียบไป
จับดูตัวเย็นจึงเอาผ้าห่มมาห่มให้พ่อ และเอาน้ำมาวางไว้ใกล้ศีรษะเผื่อพ่อหิว
แล้วจึงพาน้องเข้านอน
หลังจากตื่นมาตอนสายวันอาทิตย์จึงพาน้องไปอาบน้ำ
พบว่าพ่อยังไม่ตื่นจึงเอามืออังดูที่จมูกไม่มีลมหายใจ
สงสัยว่าพ่อตายไปแล้วหรือเปล่า จึงได้เขียนจดหมาย 3
ฉบับนี้ขึ้นมา หลังจากนึ่งข้าวเสร็จ
จึงออกจากบ้านไปเซ็นไก่ย่างมากินกับน้องๆ เดี๋ยวพ่อจะมาจ่ายเหมือนทุกครั้ง
มีคนถามหลายคนว่าพ่อไปไหนไม่เห็นออกจากบ้าน
บอกว่าพ่อตายแล้วในห้องน้ำก็ไม่มีใครเชื่อ จนคนขายไก่ย่างมาดูพบว่าพ่อตายจริงๆ
ด้านนางสัน หงษ์ทวี อายุ 26 ปี ภรรยา
หลังจากทะเลาะกับผู้ตายได้ทิ้งลูกไปพร้อมกับลูกสาวคนเล็กสุดที่ยังไม่หย่านมหนีไปทำงานที่กรุงเทพฯ
กับเพื่อน
หลังจากทราบสามีตายจึงรีบกลับมาไม่คิดว่าจะหย่าขาดไปเลยยังรักและเป็นห่วงลูกๆ อยู่
หลังจากจัดการงานศพสามีแล้วเสร็จ
คงต้องคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปจึงจะเลี้ยงลูกให้โตอย่างมีคุณค่า.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น