หนองคาย - ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ รวบหนุ่มอุดรฯ หลังเสพยาบ้า 10
เม็ด ไอส์อีก 2 กรัม ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทอง
ได้สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทไป
สารภาพจะเอาสร้อยทองไปขายเพื่อนำเงินมาซื้อยาบ้าเสพ
เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 60 ที่
สภ.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พ.ต.อ.ปรีดา ดวงพุทธา ผกก.(สอบสวน) รักษาราชการแทน
ผกก.สภ.ท่าบ่อ พ.ต.ต.เนติพงษ์ จำนงนิตย์ สารวัตรสอบสวน สภ.ท่าบ่อ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัวนายวีระยุทธ
หรือกี้ ศรีวิรัตน์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 269 หมู่ที่ 6 บ้านน้ำทรง ต.ศรีสำราญ อ.น้ำโสม
จ.อุดรธานี พร้อมของกลางรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 125 สีดำ
ไม่ปิดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน พร้อมสร้อยคอทองคำ 1
เส้นหนัก 2 บาท
โดยกล่าวหาว่าวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ
เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป
ในการจับกุมครั้งนี้
เมื่อเวลาประมาณ 10.45 น.
เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากศูนย์สื่อสารว่ามีเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ที่ห้างทองเชอรี่
2 หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่รีบรุดไปตรวจสอบ
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ เป็นชายรูปร่างผอม อายุประมาณ 19-20
ปี ไว้ผมสั้นเกรียนแบบหัวโล้น สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ
เสื้อตัวด้านในเป็นผ้ายืดสีลาย สวมกางเกงยีนต์ขายาวสีน้ำเงิน มีรอยสักที่บริเวณหางคิ้วด้านขวาและใบหน้ามีร่องรอยแผลเป็น
มองเห็นได้ชัดเจน โดยได้สร้ายคอทองคำไป 1 เส้น น้ำหนักประมาณ
2 บาท แล้ววิ่งหลบหนีไปขึ้นขับรถ จยย.หนีไปทางแยกโยคี
เจ้าหน้าที่จึงได้แบ่งกำลังออกสืบสวนติดตามจับกุมอย่างกระชับชิด
ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี จนกระทั้งเวลาประมาณ 11.30
น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า
พบชายผู้ต้องสงใสลักษณะดังกล่าวอยู่ที่บริเวณถนนชลประทาน
ระหว่างบ้านนาช้างน้ำ-บ้านท่าสำราญ
ภายหลังได้รับข้อมูลเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพร้อมสายตรวจรถยนต์ได้รีบรุดไปตรวจสอบ
พบชายคนดังกล่าวซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุ
แต่ไม่พบรถจยย.และเสื้อคลุมสีดำ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนขอตรวจสอบ
ทันใดชายคนดังกล่าวพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็แสดงอาการตกใจและพยายามวิ่งหลบหนี
แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเอาไว้ได้ และนำผู้ต้องหามาทำการสอบสวนที่ สภ.ท่าบ่อ


จากการสอบสวนเบื้องต้น
นายวีระยุทธหรือกี้ ยังให้การวกวน
เจ้าหน้าที่จึงได้แบ่งกำลังออกค้นหารถจยย.ที่ใช้ก่อเหตุ
พบรถห่างจากจุดควบคุมตัวประมาณ 3 กิโลเมตร
และพบสร้อยคอทองคำที่ซ่อนไว้ใต้ต้นไม้ ห่างจากจุดควบคุมตัวประมาณ 20 เมตร ซึ่งนายวีระยุทธหรือกี้ ได้ยอมจำนนด้วยหลักฐานและสารภาพว่า รถจยย.
ตนได้ยืมมาจากเจ้าของรีสอร์ทในตัวเมืองหนองคาย จากนั้นก็ขับขี่รถจยย.
มาตามถนนชลประธาน หนองคาย-ท่าบ่อ เมื่อมาถึงห้างทองเชอรี่ตนก็ทำทีไปซื้อสร้อยทอง
เมื่อเจ้าของร้านนำสร้อยทองมาให้ดู
ตนจึงทำการกระชากสร้อยทองแล้ววิ่งไปขึ้นรถจยย.ขับหลบหนีไปตามเส้นทางดังกล่าว
ระหว่างที่หลบหนีเกิดน้ำมันรถหมด ตนจึงทิ้งรถไว้ข้างทาง
ถอดเสื้อคลุมออกและเดินต่อไป ระหว่างนั้นก็ได้นำสร้อยทองไปซ่อนไว้ไต้ต้นไม้ริมทาง
ซึ่งก่อนก่อเหตุตนได้สูบยาบ้ามาก่อน 10 เม็ด ยาไอส์อีก 1
กรัม โดยยาบ้าและยาไอส์ซื้อมาจากเอเย่นในพื้นที่ จ.อุดรธานี และรถจยย.ที่ยืมมาตนก็จะไม้คืนเจ้าของ
จะเอาไว้ใช้เอง รวมถึงยาบ้ายาไอส์ก็จะชิ่งไม่จ่ายเงินเช่นกัน
โดยสร้อยทองที่ได้ตนจะเอาไปขายในพื้นที่ อ.น้ำโสม เพื่อนำเงินมาซื้อยาเสพ
ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยติดคุกมาแล้ว 14 วัน
ในข้อหาทำร้ายร่างกายภรรยา ออกคุกมาได้ 2 ปีก็มาก่อเหตุดังกล่าว

ส่วนทางด้านนางสาวบัณฑิกา อรนุการสกุล อายุ 31
ปี เจ้าของร้านทองกล่าวว่า
ตอนนั้นตนกำลังเปิดร้านและกำลังจัดสร้อยทอง ซึ่งคนร้ายก็เข้ามาขอดูแหวนทอง
ตนจึงหยิบมาให้ดู ดูเสร็จเขาก็ขอดูสร้อยทองหนัก 2 บาท
แต่ตนก็ยังเอะใจด้วยลักษณะมันหน้ากลัว ตนก็เลยเอามือกำสร้อยทองไว้
ในขณะที่เขากำลังดู ตนนั้นยังกำสร้อยอยู่ จากนั้นเขาก็กระชากสร้อยออกจากมือ
และคนร้ายก็คว้างนาฬิกาเข้ามาหาตน หลอกให้ตกใจ หลังจากนั้นตนก็รีบวิ่งตามคนร้ายไป
เห็นคนร้ายวิ่งไปขึ้นรถจยย.ที่จอดไว้ใกล้ๆกับร้าน แล้วก็หลบหนีไป
หลังจากนั้นตนจึงได้แจ้งตำรวจ แล้วตำรวจก็มาตรวจสอบและออกติดตาม จากนั้นประมาณ 2
ชั่วโมง ตำรวจก็โทรมาแจ้งว่าจับคนร้ายได้แล้ว
เจ้าหน้าจึงควบคุมตัวนายวีระยุทธหรือกี้
ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.