| น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ที่หายตัวไปอย่างลึกลับพร้อมรถเก๋ง |
คืบหน้ากรณีที่ นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/1 ม.3 บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยญาติพี่น้อง ได้เข้าร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชนว่าลูกสาวของ นายบุญเลิศ คือ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี รับราชการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ (ผอ.) กองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ชำ อ.กันทรลักษ์ ได้หายตัวไปพร้อมด้วยรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา ปล่อยทิ้งให้ลูกสาวอายุ 8 ขวบ อยู่กับพ่อและตายายที่แก่ชรามากแล้วนานกว่า 1 เดือน ล่าสุด พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษสามารถติดตามตรวจยึดรถเก๋งที่ น.ส.จุฑาภรณ์ขับขี่หายตัวไปได้แล้ว ตามข่าวที่ได้นำเสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดวันนี้ (9 ส.ค. 60) ที่บ้านเลขที่ 83/1 หมู่ 3 บ้านซำเบ็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ บ้านของ นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี และนางแหลม อุ่นอ่อน อายุ 60 ปี พ่อและแม่ของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษา อบต.ชำ ที่หายตัวไปอย่างลึกลับนานกว่า 1 เดือนแล้ว ปรากฏว่า ยังคงมีบรรดาญาติพี่น้องพากันมาเยี่ยมและให้กำลังใจครอบครัวอุ่นอ่อนกันอย่างคึกคักหลังจากที่สื่อมวลชนเผยแพร่ข่าวนี้ไปอย่างกว้างขวาง ซึ่ง นายวิทยา เกษแก้ว อายุ 37 ปี สามีของ น.ส.จุฑาภรณ์ ได้มานั่งคุยอยู่กับญาติพี่น้องด้วย บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงาเนื่องจากสามีและญาติพี่น้องทุกคนมีความห่วงใย น.ส.จุฑาภรณ์เป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกัน ในเฟซบุ๊ก ชื่อบัญชีผู้ใช้ OIL OIL ซึ่งเป็นชื่อเฟซบุ๊กของ น.ส.จุฑาภารณ์ หรืออ้อย ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 60 ได้มีการแชร์ข่าวของสื่อมวลชน กรณีที่พ่อและญาติพี่น้องประกาศตามหา น.ส.จุฑาภรณ์ โดยในเฟซบุ๊กได้มีการเขียนโพสต์ข้อความว่า “ # จะกลับบ้านได้มั้ย สรุป.. ไม่กลับ” และก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 60 เฟซบุ๊กของ น.ส.จุฑาภรณ์ได้มีการโพสต์ข้อความว่า “เตรียมตัวศึกษาธุรกิจนอกพื้นที่ กำลังเดินทางไปที่สาธารณรัฐเขมร จาก อ.ปราสาท จ.สุรินทร์” และวันที่ 7 ส.ค. 60 ได้มีการโพสต์ข้อความ “หุหุ รู้สึกขอบคุณ” โดยมีรูปภาพของกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งมีผู้ใช้นามว่า สุภัค เกษแก้ว เขียนข้อความสอบถามไปว่า “ถ่ายรูปตัวเองลงหน่อยว่า สีหน้าสบายจริงไหม คิ้วขมวด แสดงว่าคิดหลายเด้อ ดีใจที่ยังบ่ตาย ดูแลตัวเองด้วย”
นางแหลม อุ่นอ่อน อายุ 60 ปี แม่ของ น.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวว่า ตนอยากให้ลูกสาวกลับบ้านเพราะหายไปนานแล้ว ตนห่วงลูกสาวมาก ส่วนการที่ลูกสาวโพสต์ในเฟซบุ๊กว่า จะไม่กลับบ้านนั้นไม่น่าทำอย่างนั้น เพราะยังไงก็ต้องกลับมาบ้านเรา พ่อแม่ญาติพี่น้องทุกคนมีความห่วงใยอ้อยมาก อยากให้กลับมาบ้านโดยด่วนด้วย
| นางแหลม อุ่นอ่อน อายุ 60 ปี แม่ |
ทางด้าน นายวิทยา เกษแก้ว อายุ 37 ปี สามีของ น.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 60 ที่น้องอ้อย (น.ส.จุฑาภรณ์) หายตัวไป ตนได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อมาโดยตลอดแต่ไม่สามารถที่จะติดต่อได้ โดยลักษณะเป็นสายว่างแต่ไม่มีการรับสาย มีการพูดคุยกันทางไลน์ แต่ว่าคำพูดไม่ใช่คำพูดที่ตนกับอ้อยพูดคุยกันตามปกติ เพราะ อ้อยจะเรียกตนว่า วิทย์ และตนจะเรียกอ้อยว่า อ้อย หรือเรียกกันว่าพ่อ แม่ แต่คำพูดที่คุยกันในไลน์ เป็นการพูดว่าเธอ ฉัน ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ใช่อ้อยอย่างแน่นอน อีกทั้งมีการขอให้ตนโอนเงินไปให้ด้วยจำนวน 20,000 บาท แต่เมื่อตนขอเลขบัญชีธนาคารก็ไม่แจ้งให้ทราบ
ส่วนการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กนั้นมั่นใจว่าไม่ใช่อ้อยอย่างแน่นอน เพราะคำพูดไม่ใช่ลักษณะที่อ้อยชอบพูดคุย อีกทั้งรูปภาพที่โพสต์ขึ้นมาเป็นภาพเก่าที่มีอยู่ในโทรศัพท์ของอ้อยนานแล้ว ตนอยากขอวอนไปยังอ้อยว่า หากยังมีชีวิตอยู่ขอให้โทร.กลับบ้านด้วยเพราะตนห่วงอ้อยมาก หากไม่เห็นแก่ใคร ก็ขอให้เห็นแก่ลูกด้วย เพราะน้องใบเฟิร์นยังเด็กมาก ตนอาจเลี้ยงดูลูกได้ไม่ดีเท่ากับที่อ้อยเลี้ยงดูลูก
| นายวิทยา เกษแก้ว อายุ 37 ปี สามี |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น