คณะผู้นำชุมชนอำเภอประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี เข้าเยี่ยมชนการดำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงที่ นพค.25 หนองคาย

หนองคาย - คณะผู้นำชุมชนอำเภอประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี เข้าเยี่ยมชนการดำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ภายในหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อนำเอาความรู้ที่ได้กลับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้

       เมื่อเร็วๆนี้ ที่หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย บ้านศูนย์กลาง หมู่ 3 ต.ด่าศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย พ.อ.ปวริศ บริบูรณ์ รอง ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 ได้ต้อนรับคณะผู้นำชุมชนอำเภอประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี เข้าเยี่ยมชนการดำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง และบรรยายพิเศษ ซึ่งที่ผ่านมา หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 ได้มีโอกาสต้อนรับคณะที่เดินทางมาศึกษาดูงานของศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ทั้งในพื้นที่ จ.หนองคาย จังหวัดใกล้เคียง และ จาก สปป.ลาว ทั้งเป็นคณะผู้นำ และ กลุ่มเยาวชน

      จากนั้น คณะได้เยี่ยมชมบ้านสวนเกษตรวิถีชีวิตพอเพียง เช่น โรงเลี้ยงหมูหลุม เพื่อผลิตแก็สหุงต้มใช้ในครัวเรือน โรงเลี้ยงไก่ไข่บนบ่อปลา บ่อเลี้ยงปลาดุก สวนปลูกพืชสวนกินได้ โรงปุ๋ยหมักสูตรของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ จากนั้นได้เดินทางไปเยี่ยมชนบ้าน ร.ท.โสภณ จงสุขประดิษฐ์ บ้านศูนย์กลาง หมู่ 3 ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย ซึ่งเป็นฃ้าราชการดีเด่น ของ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 ที่ยึดหลักแนวทางและนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาทำโดยใช้เวลานอกเวลาราชการและวันหยุดราชการ จนเกิดผลสำเร็จและเป็นตัวอย่างให้กับทุกคนที่สนใจได้เป็นอย่างดี จนเป็นที่รู้จักกันทั่วไป และถ่ายทอดความรู้ให้สมาชิกในชุมชนและคณะที่เดินทางมาดูงานแล้วกลับไปปรับใช้ในครอบครัวตนเองได้อย่างดียิ่ง.

เทศบาลเมืองหนองคาย มอบถังขยะรีไซเคิลวัตถุอันตรายให้กับชุมชนในเขตเทศบาล ทั้ง 43 ชุมชน

หนองคาย - เทศบาลเมืองหนองคาย มอบถังขยะรีไซเคิลวัตถุอันตรายให้กับชุมชนในเขตเทศบาล ทั้ง 43 ชุมชน เพื่อกำจัดขยะอันตรายได้อย่างถูกต้องและถูกวิธี

       เมื่อเร็วๆนี้ ที่หอประชุมเทศบาลเมืองหนองคาย นายวีระชัยโชค มงคลภูมิรัตน์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย เป็นประธานในพิธีมอบถังขยะรีไซเคิลวัตถุอันตรายให้กับชุมชนในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ทั้ง 43 ชุมชน เพื่อลดขยะมูลฝอยในชุมชนโดยเฉพาะการ คัดแยกขยะรีไซเคิลและขยะวัตถุอันตรายทั่วไป ป้องกันการเกิดมลพิษกับสิ่งแวดล้อม แล้วนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี ส่วนขยะที่สามารถขายได้ก็สามารถนำมาขายให้กับกองทุนสงเคราะห์จากขยะรีไซเคิลของเทศบาลเมืองหนองคาย เป็นการสร้างรายได้จากการขายขยะได้ด้วย

       นายวีระชัยโชค มงคลภูมิรัตน์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย กล่าวว่า เทศบาลเมืองหนองคาย ได้ส่งมอบถังขยะอันจรายให้กับชุมชนครั้งนี้ เพื่อเป็นจุดรวบรวมขยะอันตราย เช่นหลอดไฟฟ้า, ถ่านไฟฉาย, แบตเตอรี่, กระป๋องสเปรย์ และภาชนะที่เปื้อนสารเคมีต่างๆ แล้วนำไปตั้งไว้ในชุมชนตามจุดต่างๆ เพื่อให้ชุมชนร่วมกันกำจัดวัตถุดังกล่าวตั้งแต่ต้นทาง และขอความร่วมมือจากประชาชนในชุมชนให้คัดแยกขยะวัตถุอันตรายดังกล่าวให้ถูกสุขลักษณะและทิ้งให้ถูกที่ตามที่เทศบาลได้จัดเตรียมให้ไว้ 

       นอกจากนี้ หลักเกณฑ์สมาชิกกองทุนสงเคราะห์จากขยะรีไซเคิลประจำปี 2561 นั้น ซึ่งหากสมาชิกเสียชีวิตและมีคุณสมบัติที่จะได้รับเงินสงเคราะห์จากกองทุนฯ ทางเจ้าหน้าที่กองทุนฯ จะดำเนินการหักเงินจากการขายขยะรีไซเคิลของสมาชิกทุกครัวเรือนในชุมชนครัวเรือนละ 20 บาท ให้กับสมาชิก เป็นการหักเงินจากจากรายได้ของการขายขยะรีไซเคิลที่สมาชิกนำมาขาย หรือ เงินสด ซึ่งสมาชิกแต่ละชุมชนได้นำขยะรีไซเคิลมาขายให้กับกองทุนเดือนละ 1 ครั้ง และสมาชิกกองทุนฯ ทุกคนต้องเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารที่ได้เข้าร่วมโครงการเท่านั้น

ตำรวจหนองคาย ฝึกยุทธวิธี “การบริหารเหตุวิกฤตการณ์กรณีคนร้ายยิงกราด”

หนองคาย - ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ พัฒนาประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่ ทำการฝึกยุทธวิธีการบริหารเหตุวิกฤติกรณีคนร้ายยิงกราด เพื่อเป็นการเพิ่มทักษะในการปฏิบัติงาน และลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน 

       เมื่อวันที่  28 ก.ย. 60 ที่ผ่านมา ที่สถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ  อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย  พ.ต.อ.อรรคพงศ์ พิมลศิริ รอง ผบก.ภ.จว.หนองคาย เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมตามโครงการฝึกยุทธวิธี “การบริหารเหตุวิกฤตการณ์กรณีคนร้ายยิงกราด”  โดยมี มีคณะ กต.ตร.สภ.ท่าบ่อ และแขกผู้มีเกียรติร่วมในพิธี

        สำหรับการฝึกครั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพข้าราชการตำรวจด้านยุทธวิธีการบริหารเหตุวิกฤติ หรือ Active Shooting  กรณีคนร้ายยิงกราด เพื่อให้มีความรู้ เพิ่มทักษะในการปฏิบัติงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในการป้องกันปัญหาอาชญากรรมและปัญหายาเสพติด อีกทั้ง เพื่อให้สามารถป้องกันเหตุร้ายที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน และได้รับการยอมรับ สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน

        มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ารับการฝึกจาก สภ.ท่าบ่อ, สภ.เวียงคุก, สภ.เมืองหนองบัวลำภู, กก.สส.ภ.จว.นค.และ อส.อ.ท่าบ่อ จำนวน 50 นาย  โดยมีชุดครูฝึกจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (คอมมานโด) กองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผกก.ปพ.บก.ป.และคณะ ทำการฝึก.

ลงทะเบียนจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” วันสุดท้ายที่หนองคาย คึกคัก

หนองคาย – ประชาชนชาวอำเภอท่าบ่อ เดินทางสมัครเป็นจิตอาสา ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช วันสุดท้ายคึกคัก นับตั้งแต่วันเปิดรับสมัครจนถึงวันสุดท้าย มีผู้สมัครแล้วกว่า 5,851 คน โดยยอดรวมทั้งจังหวัดกว่า 28,033 คน

       วันนี้ (30 ก.ย. 60) ที่สำนักทะเบียนมาตรฐาน ชั่น 1 ที่ว่าการอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ซึ่งเปิดเป็นศูนย์รับลงทะเบียนจิตอาสาเฉพาะกิจงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 30 กันยายน 2560 ปรากฏว่าในวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรับลงทะเบียน โดยตั้งแต่เช้ามีประชาชนเดินทางมาลงทะเบียนจำนวนมาก ถึง 575 คน โดยคาดว่าจะมีประชาชนเดินทางมาลงทะเบียนทั้งวันจนกระทั้งปิดการลงทะเบียน

       ซึ่งส่วนใหญ่จะมากันเป็นครอบครัวพาบุตรหลานมาร่วมลงทะเบียน โดยประชาชนที่มาลงทะเบียนกล่าวว่า ที่มาลงทะเบียนเพราะตั้งใจทำความดีถวายให้กับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่  9  หรือ พ่อหลวง สิ่งไหนที่ทำได้ก็จะลงมือทำ และตั้งใจน้อมนำคำสอนของพ่อหลวงเป็นที่ตั้งในการดำเนินชีวิตต่อไป

      สำหรับภาพรวมจิตอาสาในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ ตั้งแต่เปิดรับสมัครจนถึงวันสุดท้ายรวมทั้งสิ้นกว่า 5,851 คน ซึ่งจิตอาสาที่เลือกงานมากที่สุดคือ งานบริการประชาชนทั่วไป รองลงมาเป็นงานดอกไม้จันทน์และงานแพทย์ สำหรับภาพรวมทั้งจังหวัดมีมาสมัครจิตอาสารวมทั้งสิ้นกว่า 28,033 คน ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จะติดต่อประชาชนให้มารับบัตรจิตอาสาต่อไป.

ลำปาง - ชาวบ้านบ้านแหงลำปางรวมพลังทุกเพศทุกวัยกว่า 500 คน จัดเวทีประชาคมโหวตไม่ให้บริษัทเอกชนเข้ามาทำเหมืองถ่านหินในหมู่บ้านหวั่นจะเกิดผลกระทบ

       วันนี้(28 ก.ย. 60) ที่โรงเรียนบ้านแหงเหนือ ตำบลบ้านแหง อำเภองาว จังหวัดลำปาง ชาวบ้าน 2 หมู่บ้านได้แก่ บ้านแหงเหนือ ม.1 และ ม.7 จำนวน 560 คน ได้ร่วมกันจัดเวทีประชาคมของหมู่บ้านขึ้นเพื่อขอมติชาวบ้านในการขอให้ทางราชการยกเลิกประชาคมของ บริษัท เขียวเหลือง จำกัด ที่จะเข้ามาเปิดเหมืองถ่านหินในหมู่บ้าน 


        มีเจ้าหน้าที่และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นสักขีพยานและร่วมสังเกตุการณ์ ทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้จากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ ๓ (ลำปาง) เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ลำปาง รอง ผกก.สภ.งาว ปลัดอำเภอ นายกอบต.บ้านแหง และ อบต.หลวงเหนือ 


       โดยมีนายมาโนชย์ สมศักดิ์ ปลัดอำเภองาว เป็นประธานเปิดเวทีประชาคม และ นางกมลเนตร เชียงโฉม ผู้ใหญ่บ้านหมู่7 กล่าวรายงาน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และ ชรบ.หมู่บ้านคอยดูแลความสงบเรียบร้อย

       โดยก่อนที่จะมีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ผู้อาวุโสของหมู่บ้านได้เล่าเรื่องประวัติและความเป็นมาของการก่อตั้งหมู่บ้าน บ้านแหงเหนือให้แก่ชาวบ้านและลูกหลานฟังพอสังเขป ผู้ใหญ่บ้านได้เล่าถึงความเป็นมาในการที่ต้องมีการทำประชาคมหมู่บ้านขึ้นในวันนี้ 


       ก่อนที่จะเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นขอประชามติกับประชาชนทั้งสองหมู่บ้าน ใน 4 หัวข้อ ได้แก่ ข้อ 1. เห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วย ที่จะให้ยกเลิกเพิกถอนผลของการทำประชาคม รวมถึงบันทึกประชาคมขอประทานบัตรเพื่อทำเหมืองแร่ถ่านหินลิกไนต์ของบริษัท เขียวเหลืองจำกัด เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2553 ที่บริษัทฯนำไปใช้ดำเนินการขอประทานบัตร จนได้มาซึ่งประทานบัตรแปลงที่ 30485/16138 เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม2558


       ผลของการลงประชามติของชาวบ้าน เห็นด้วย 539 เสียง แบ่งเป็นคะแนนของผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 13 เสียง ที่เหลือเป็นเสียงของผู้มีอายุมากกว่า 18 ปี ไม่มีผู้ไม่เห็นด้วย


        ข้อ 2 เห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วย ที่จะไม่อนุญาตให้ดำเนินการขอประทานบัตรตามคำขอประทานบัตรเพื่อทำเหมืองแร่ถ่านหินลิกไนต์ของบริษัท เขียวเหลือง จำกัด แปลงที่ 4/2553, 5/2553, 7/2553 และ 8/2553 รวมถึงคำขอประทานบัตรเพื่อทำเหมืองแร่ถ่านหินหรือแร่ชนิดอื่น ๆ ของเอกชนรายอื่นด้วย


       ผลของการลงประชามติของชาวบ้าน เห็นด้วย 545 เสียง แบ่งเป็นคะแนนของผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 18 เสียง ที่เหลือเป็นเสียงของผู้มีอายุมากกว่า 18 ปี ไม่มีผู้ไม่เห็นด้วย


       ข้อ 3 เห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วย ที่จะไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ป่าไม้ประเภทต่าง ๆ และตามกฎหมายป่าไม้ที่เกี่ยวข้องฉบับต่าง ๆ และพื้นที่ ส.ป.ก. ในเขตที่อยู่ในความดูแล รับผิดชอบและทำนุบำรุงรักษาของหมู่บ้านแหงเหนือ หมู่ที่ 1 และ 7 เพื่อสำรวจและทำเหมืองแร่


       ผลของการลงประชามติของชาวบ้าน เห็นด้วย 545 เสียง แบ่งเป็นคะแนนของผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 18 เสียง ที่เหลือเป็นเสียงของผู้มีอายุมากกว่า 18 ปี ไม่มีผู้ไม่เห็นด้วย


       ข้อ4. เห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วย ที่จะขอขึ้นทะเบียนเพื่อสงวนรักษาและใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าไม้ประเภทต่าง ๆ และตามกฎหมายป่าไม้ที่เกี่ยวข้องฉบับต่าง ๆ และพื้นที่ ส.ป.ก. ที่ปรากฎอยู่ในคำขอประทานบัตรเพื่อทำเหมืองแร่ถ่านหินลิกไนต์ของบริษัท เขียวเหลืองจำกัด แปลงที่ 4/2553, 5/2553, 7/2553 และ 8/2553 ให้เป็นป่าชุมชนและป่าใช้สอยของราษฎรบ้านแหงเหนือทั้ง 2 หมู่บ้าน รวมถึงราษฎรจากหมู่บ้านอื่น ๆ ด้วยในละแวกใกล้เคียงกัน


       ผลของการลงประชามติของชาวบ้าน เห็นด้วย 545 เสียง แบ่งเป็นคะแนนของผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 18 เสียง ที่เหลือเป็นเสียงของผู้มีอายุมากกว่า 18 ปี ไม่มีผู้ไม่เห็นด้วย


       ซึ่งบรรยากาศของการจัดเวทีในวันนี้เป็นไปด้วยดี ก่อนที่จะได้ข้อสรุปและปิดเวทีในเวลา 12.00 น.เศษ และทุกคนได้แยกย้ายกันกลับบ้าน
  

แหล่งที่มา / ASTVผู้จัดการออนไลน์

หนองคาย - ศุลกากรหนองคายค้นโกดังเก็บสินค้า 3 แห่งในเมืองอุดรธานี ตรวจยึดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท พบเป็นของคนจีนเช่าโกดังไว้กระจายสินค้า มีทั้งผ้าขนหนู ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอนฯลฯ ซึ่งมีการพิมพ์ลายการ์ตูน และสโมสรฟุตบอลต่างประเทศ จำนวนมาก

       เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้(28 ก.ย. 60) นายประยุทธ์ มณีโชติ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2, นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย ได้นำเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย พร้อมหมายค้นจากศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ ค.223/2560 เข้าค้นโกดังเลขที่ 442/3 หมู่ 3 ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นโกดัง 2 หลังใหญ่ มีนายเจา ซี (Mr.Gao Ze) อายุ 24 ปี ชาวจีน เป็นผู้ดูแลโกดัง และโกดังเลขที่ 383 หมู่ 3 ต.สามพร้าว อีกหลังหนึ่ง โดยมีนายหวัง เชียงหยง (Mr.Wang Xiaoyong) อายุ 38 ปี ชาวจีน เป็นผู้ดูแลโกดัง

       จากการตรวจค้นทั้ง 3 โกดัง เจ้าหน้าที่พบสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ประเภท ผ้าขนหนู ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ซึ่งมีการพิมพ์ลายการ์ตูน และสโมสรฟุตบอลต่างประเทศ จำนวนมาก รวมถึงสินค้าประเภทผ้าม้วน เสื่อ เบาะรองนั่ง พรมปูพื้น อีกหลายกระสอบ


       นายประยุทธ์ มณีโชติ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลและกรมศุลกากรที่ให้ดำเนินการปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้าลักลอบนำเข้าส่งออกโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร ในครั้งนี้ได้สืบทราบว่าที่โกดังทั้งสามแห่งมีการนำสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เข้ามาจำหน่าย จึงขอหมายค้นเข้าทำการตรวจสอบ ซึ่งก็พบการกระทำผิดจริง 


       โดยสินค้าต้นทางมาจากชายแดนอรัญประเทศ ตลาดโรงเกลือ บางส่วนนำมาจากลาดกระบัง และแหลมฉบัง มูลค่าสินค้าที่จะทำการตรวจยึดทั้งหมดประมาณ 30 ล้านบาท กรณีที่เป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจยึดไว้ทั้งหมด

       ส่วนสินค้าที่ไม่มีลิขสิทธิ์จะเปิดโอกาสให้เจ้าของสินค้านำใบขนสินค้าขาเข้าพร้อมใบเสร็จชำระภาษีศุลกากรมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ว่ามีจำนวนถูกต้องหรือไม่

       หากไม่ครบก็จะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ศุลกากรร่วมด้วย โดยอัตราโทษปรับ 4 เท่าของมูลค่าสินค้ารวมอากร จากนั้นจะได้นำสินค้าทั้งหมดมาเก็บรักษาไว้ที่ด่านศุลกากรหนองคายต่อไป.

แหล่งที่มา / ASTVผู้จัดการออนไลน์

หนุ่มพิการกตัญญูชาวอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย ภาคภูมิใจที่ผู้ใจบุญมามอบบ้านสะพานบุญ หลังได้รับการซ่อมแซมมาหนึ่งสัปดาห์

หนองคาย - ทีมงานเจ๋เล็กมะละกอ ตลาดเมืองทองอุดรธานี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยประจักษ์จังหวัดหนองคาย และผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 บ้านพฤกษาหาร ตำบลนาข่า อำเภอท่าบ่อ ร่วมกันมอบบ้านตามโครงการ “บ้านสะพานบุญ” ให้กับหนุ่มพิการมาแต่กำเนิด

       เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (28 ก.ย. 60) ที่บ้านเลขที่ 182 หมู่ที่ 5 บ้านพฤกษาหาร ตำบลนาข่า อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย บรรดาพ่อค้าแม่ค้าทีมงานเจ๋เล็กมะละกอ ตลาดเมืองทองอุดรธานี นำโดย นางสาวเล็ก เกษนอก พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยประจักษ์จังหวัดหนองคาย และ นายบุญมา บุญเลิศ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 บ้านพฤกษาหาร ตำบลนาข่า ร่วมกันมอบบ้านตามโครงการ “บ้านสะพานบุญ” ให้กับนายตฤณหรือบอล คำภูแก้ว อายุ 30 ปี หนุ่มพิการมาแต่กำเนิด ด้วยความเป็นคนกตัญญูรู้คุณ จึงทำการฝึกฝนในการซ่อมโทรศัพท์มือถือเพื่อหาเงินเลี้ยงตนเองและยาย

       นายตฤณหรือบอล คำภูแก้ว กล่าวว่า ตนมีความภาคภูมิใจมากที่ได้บ้านหลังนี้ เป็นบ้านที่ชื้อว่า “บ้านสะพานบุญ” และเป็นสิ่งที่หน้าภูมิใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ บ้านตนมันผุพังแล้วและก็มันจะหักเพราะว่าปลวกกิน ก็ต้องขอขอบคุณทางเจ๋เล็กมะละกอ และกู้กัยประจักษ์หนองคาย ที่มาสร้างบ้านให้ใหม่ ตนชอบมากและดีกว่าเดิมด้วย ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างมาก

       ด้านนางสาวเล็ก เกษนอก หรือเจ๋เล็กมะละกอ ตลาดเมืองทองอุดรธานี กล่าวว่า ตนทราบข่าวจากเฟชบุ๊คของนายปรเมษฐ์ เหมังค์ ก็เลยนึกสงสาร จึงได้ทำการรวบรวมเงินจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดเมืองทองอุดรธานี ได้เงินมาเป็นจำนวน 35,000 บาท และก็ได้มอบเงินผ่านทางกองทุนกู้ภัยประจักษ์หนองคาย เพื่อนำเงินดังกล่าวมาซ่อมแชมบ้านให้นายบอล โดยได้จ้างช่างก่อสร้างที่เป็นญาติกับนายบอล ด้วยการทำเป็นโครงหลังคาเหล็ก ก่ออิฐบล็อก ฉาบปูนบางส่วนที่สำคัญ เช่น ห้องน้ำ และเทพื้นคอนกรีตให้สูงขึ้นอีกนิดหน่อย ด้วยงบประมาณที่จำกัดจึงทำได้เพียงแค่นี้ อนาคตอันใกล้นี้ก็จะหาทุนมาปูกระเบื้องพื้น และจัดหาสุขภัณฑ์มาให้ใหม่อีกด้วย ตอนนี้ต้องให้ใช้ของที่มีอยู่ไปก่อน ซึ่งช่างก็ได้ลงมือซ่อมแซมบ้านของนายบอลได้หนึ่งสัปดาห์พอดี วันนี้ตนพร้อมทีมงานจึงเดินทางมามอบบ้านตามโครงการดังกล่าว.