วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

หนองคาย - มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรราชวิทยาลัย วิทยาเขตหนองคาย ร่วมกับวัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) และสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย สาขาจังหวัดหนองคาย ตั้งศูนย์ช่วยเหลือ “ฮักแพงแบ่งปัน ร่วมด้วยช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ชาวสกลนคร” เปิดรับบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภค น้ำดื่มและของใช้จำเป็น


       วันที่ 30 ก.ค. 60 ที่พลับพลาหลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย พระราชรัตนาลงกรณ์,ดร. เจ้าคณะจังหวัดหนองคาย /รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตหนองคาย นำคณะผู้บริหาร คณาจารย์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาเขตหนองคาย ร่วมกับวัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) และสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย สาขาจังหวัดหนองคาย ตั้งศูนย์ช่วยเหลือ ฮักแพงแบ่งปัน ร่วมด้วยช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ชาวสกลนครเปิดรับบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภค น้ำดื่มและของใช้จำเป็น อาทิ ข้าวสาร น้ำดื่ม ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เทียน เป็นต้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดสกลนคร และจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียงในเบื้องต้น

       ล่าสุดขณะนี้ มีนักท่องเที่ยว และชาวหนองคายที่มีจิตศรัทธา รวมทั้งนิสิต มจร วิทยาเขตหนองคาย ทั้งศิษย์เก่าฯ และศิษย์ปัจจุบัน ได้เดินทางนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค น้ำดื่มและของใช้ที่จำเป็น มาบริจาคช่วยเหลือจำนวนมาก ตลอดทั้งวัน โดยจะรวบรวมนำไปช่วยผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสกลนครและพื้นที่ใกล้เคียงในโอกาสต่อไป


แหล่งที่มา  aec-tv-online





หนองคาย - ตำรวจน้ำหนองคาย นำเรือตรวจการณ์ออกลาดตระเวนเตือนประชาชนริมฝั่งแม่น้ำโขงให้ระวังน้ำท่วมฉับพลัน และขอความร่วมมือเรือโดยสารและเรือรับจ้างในแม่น้ำโขงใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวและมีเศษไม้ - ไม้ท่อนซุงขนาดใหญ่ พร้อมจัดชุดปฏิบัติการออกช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยทันที ล่าสุดส่งชุดปฏิบัติการฯ จำนวน 5 ชุด เข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดสกลนคร


เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (30 ก.ค. 60) ที่สถานีเรือตำรวจน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย พ.ต.ท.ฟุ้ง ชัยนนท์นอก รอง ผกก.11 บก.รน. , พ.ต.ท.จีรยุทธ์ อ่อนทอง สว.ส.รน.3 กก.11 บก.รน.หนองคาย (สารวัตรกองกำลังสถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 11 กองบังคับการตำรวจน้ำ) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำหนองคาย ได้นำเรือตรวจการณ์จำนวน 2 ลำ ออกลาดตระเวนแจ้งเตือนประชนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงให้ระมัดระวังน้ำโขงล้นตลิ่งเข้าท่วมและขอให้ขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่สูงก่อน นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือให้เรือโดยขนสินค้าและโดยสาร ที่ด่านท่าเรือหายโศก ให้บรรทุกสิ่งของและผู้โดยสารน้อยลง และใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวกราก และมีเศษไม้-ขอนไม้ขนาดใหญ่ไหลมาตามน้ำเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจทำให้เรือได้รับความเสียหายหรือเกิดอุบัติเหตุล่มได้

      พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สั่งการผ่าน พล.ต.ต.กฤษธาพล ยี่สาคร ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ให้ พ.ต.อ.จักริน ชุนแจ่ม ผกก.11 กองบังคับการตำรวจน้ำ จัดชุดปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และสนับสนุนเครื่องอุปโภค-บริโภค ซึ่งขณะนี้ได้มีการจัดชุดปฏิบัติการฯ เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดสกลนครแล้ว 5 ชุด และเตรียมพร้อมรอรับคำสั่งและการร้องขอไว้อีก 2 ชุด นอกจากนี้ผู้บังคับบัญชายังได้มอบหมายให้สถานีตำรวจน้ำหนองคาย ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นพิเศษในช่วงนี้ เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีระดับสูง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ สถานีตำรวจน้ำหนองคาย จึงได้นำเรือตรวจการณ์ออกลาดตระเวนแจ้งเตือนประชาชนมีบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำโขงให้มีความระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลัน และออกแจ้งเตือนให้ผู้ที่ใช้เรือในแม่น้ำโขง ให้มีความระมัดระวังในการเดินเรือ

โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำอยู่ให้มีความพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นไว้ในที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำโขงและการแจ้งเตือนอย่างใกล้ชิด และหากมีเหตุการณ์อุทกภัย ตำรวจน้ำหนองคายก็ได้มีการตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย สามารถประสานขอความช่วยเหลือที่หมายเลขด่วน 1196 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

   ในส่วนของระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านจังหวัดหนองคาย วันนี้ยังคงเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 9.68 เมตร เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของเมื่อวานนี้ 18 ซม. มีระดับต่ำกว่าตลิ่งเพียง 2.52 เมตรเท่านั้น


แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย

สงขลา - มิจฉาชีพแฮกเฟซบุ๊กรับสมัครงานบริษัททรู อ้างทำงานพาร์ตไทม์แค่วันละ 3-5 ชม. สมัครง่ายเพียงใช้แค่สำเนาบัตรประชาชน และบัญชีธนาคาร เหยื่อสาวหลงเชื่อวันเดียวมีเงินเข้าบัญชี 28,000 บาท ก่อนใช้ให้ถอนเงินไปซื้อบัตรทรูวอลเล็ต แต่ถัดมาอีกวัน ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าของเงิน แจ้งเฟซบุ๊กถูกแฮกหลอกใช้บัญชีเพื่อโอนเงิน

      วันนี้ (31 ก.ค. 60) ได้มีหญิงสาวรายหนึ่ง อายุ 23 ปี ชาว จ.พัทลุง เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.สมเกียรติ คำสุวรรณ สารวัตรสอบสวน สภ.หาดใหญ่ หลังจากที่ถูกหลอกนำบัญชีธนาคารไปใช้โอนเงิน
       
       โดยหญิงสาวรายนี้บอกว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เปิดเพจหางานแห่งหนึ่ง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และพบว่า มีเฟซบุ๊กชื่อ “SIVPOP KAMPAN” ซึ่งอ้างว่ากำลังเปิดรับสมัครเป็นพนักงานของบริษัททรู ทำงานพาร์ตไทม์ วันละ 3-5 ชั่วโมง ได้ค่าตอบแทนดี โดยมีหน้าที่รับโอนเงิน ซึ่งใช้เพียงสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาสมุดบัญชีธนาคารเท่านั้น ด้วยความที่กำลังว่างงาน จึงรีบสมัคร พร้อมกับส่งหลักฐานไปให้ และมีการตอบรับทันที แต่ติดต่อกันผ่านทางเฟซบุ๊กโดยตลอด

       หญิงสาวรายนี้บอกด้วยว่า หลังจากที่สมัครเสร็จไม่เกิน 10 นาที ปรากฏว่า ได้รับการติดต่อจากเฟซบุ๊กดังกล่าวว่า มีการโอนเงินเข้าบัญชีตนมา 2 ครั้ง ครั้งแรก 8,500 บาท ครั้งที่สอง 20,000 บาท และให้ตนไปถอนออกมาทั้งหมด แล้วนำไปซื้อบัตรทรูวอลเล็ต ที่ร้านสะดวกซื้อ 2 แห่ง ซึ่งบัตรทรูวอลเล็ต เป็นระบบโอนเงินเติมเงินออนไลน์ที่สามารถนำเงินไปใช้จ่ายผ่านโทรศัพท์มือถือได้ โดยใช้โทรศัพท์หมายเลขหนึ่ง
       
       โดยตนได้ซื้อบัตรทรูวอลเล็ตสูงสุดครั้งละ 2,000 บาท จนครบตามจำนวนเงินที่ได้รับโอนมา แต่ทางเจ้าของเฟซบุ๊กอ้างว่า ให้ทำลายสลิป และลบข้อมูลการเซตทั้งหมดออก เพราะเป็นความลับของลูกค้า พร้อมกับบอกว่า เสร็จงานแล้วจะโอนค่าตอบแทนมาให้ 650 บาท
       
       แต่ปรากฏว่า ในวันรุ่งขึ้นได้รับโทรศัพท์จากชายคนหนึ่งที่โอนเงินมาให้ตนว่า เฟซบุ๊ก “SIVPOP KAMPAN” เป็นเฟซบุ๊กของเพื่อนสนิทที่ถูกแฮก และถูกหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของตนเอง จึงได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจไว้เป็นหลักฐาน เพราะตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อมิจฉาชีพกลุ่มนี้ เพียงแต่ถูกหลอกนำบัญชีธนาคารไปใช้เท่านั้น เพราะกลัวว่าอาจจะถูกแจ้งความดำเนินคดีด้วย




เชียงใหม่ - คอหวยเชียงใหม่มีที่หวังเพิ่ม แห่ขอเลขเด็ด “น้องปังปัง-กุมารองค์ใหญ่วัดดังสารภี” เจ้าอาวาสฯ เผยเข้าฝันมาขออยู่ด้วย ระหว่างทำพิธีเลขลอยในบาตรน้ำมนต์ชัด ขณะที่ตะเคียนคู่ “สไบเงิน-สไบทอง” ก็ยังมีคนทาถูไม่ขาดสาย


       รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนวันหวยออกงวดนี้ วัดเชียงขาง ต.ไชยสถาน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีผู้คนมาขอเลขเด็ดจากต้นตะเคียนคู่แม่-ลูก “สไบเงิน-สไบทอง” รวมถึงศาลกุมารทองกันแบบต่อเนื่องไม่ขาดสายทุกงวด
       
       โดยเฉพาะศาลเล็ก 4 ยอดกุมารที่มีกุมาร 4 องค์ เคยมีคนมาขอถูกเลขเด็ดกันมากมายมาแล้ว ล่าสุดยังมี “กุมารทอง เทวฤทธิ์ - น้องปังปัง” กุมารองค์ใหญ่ ที่พระอธิการเสน่ห์ จนฺทสโร หรือครูบาเสน่ห์ เจ้าอาวาสวัดเชียงขาง ได้ทำพิธีอัญเชิญมาประดิษฐานเมื่อไม่นานมานี้ ก็ได้รับความนิยมขอเลขเด็ดให้ถูกปังๆ กันอย่างมาก
       
       ซึ่งก่อนหน้าพระเสน่ห์ได้ฝันว่ามีกุมารองค์ใหม่มาเข้าฝันขออยู่ด้วย จึงได้ทำหุ่นเป็นกุมารทองปูนปั้นความสูง 2 เมตร หนักหลายกิโลกรัม พร้อมทำพิธีอัญเชิญให้อยู่ และระหว่างทำพิธีเมื่อเร็วๆ นี้บาตรน้ำมนต์ปรากฏเลขให้เห็นชัดๆ 3 คู่ จึงเขียนไว้ที่บอร์ด เพื่อให้ประชาชนทั่วไป-คณะศรัทธาที่สนใจนำไปเสี่ยงโชคตามบุญกุศลของแต่ละคนที่ทำมา 



อุบลราชธานี - ชลประทานอุบลฯ ประกาศเตือนชาวชุมชนสองฝั่งแม่น้ำมูลเตรียมรับมือน้ำล้นตลิ่งพรุ่งนี้ (1 ส.ค.) แนวโน้มระดับน้ำที่ไหลจากจังหวัดด้านเหนือยังสูงขึ้นต่อเนื่องให้เฝ้าระวังใกล้ชิด ขณะที่พายุเซินกาทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือน และพื้นที่เกษตรกรรมเสียหายรวม 11 อำเภอ ขณะนี้พื้นที่ส่วนใหญ่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ มีเพียงพื้นที่ลุ่มติดลำน้ำสาขาที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง


       สำหรับที่จังหวัดอุบลราชธานี วันนี้ (31ก.ค. 60) นายอนันต์ ปรีชาวุฒิวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุบลราชธานี ได้ออกประกาศเตือนภัยและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำมูลในเขตจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุเซินกา ทำให้มีฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วัน
       
       โดยมีน้ำจากจังหวัดด้านเหนือทั้งจากลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำมูลที่ได้รับผลกระทบจากพายุลูกนี้ ได้เร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนต่างๆ ให้ไหลมาลงแม่น้ำมูล เพื่อไหลออกไปยังแม่น้ำโขง ทำให้แม่น้ำมูลมีระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง
       
       ล่าสุดเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 30 ก.ค. ระดับน้ำในแม่น้ำมูลสถานีวัดน้ำ M7 สะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมือง มีระดับน้ำสูง 6.67 เมตร ต่ำกว่าตลิ่งเพียง 33 เซนติเมตร (ส่วนระดับน้ำวันนี้ 31 ส.ค. น้ำสูง 6.86 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 14 เซนติเมตร) คาดว่าน้ำจะเริ่มล้นตลิ่งไหลท่วมชุมชนสองฝั่งแม่น้ำมูลในวันที่ 1 ส.ค. จึงขอเตือนให้เฝ้าระวังและเก็บข้าวของขึ้นที่สูง เพราะคาดระดับน้ำยังสูงขึ้นต่อเนื่อง
       
       สำหรับชุมชนที่จะได้รับผลกระทบจากระดับน้ำเป็นลำดับแรกคือ ชุมชนท่ากอไผ่ ชุมชนหาดสวนสุข ชุมชนหาดสวนยา ชุมชนดีงาน ชุมชนท่าบ้งมั่ง ในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ ส่วนเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี มีชุมชนวังแดง ชุมชนชลประทานท่าบ่อ ชุมชนหาดวัดใต้ 


       ด้านความเสียหายจากพายุเซินการะหว่างวันที่ 25-27 ก.ค. มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 11 อำเภอ 27 ตำบล 1 ชุมชน 58 หมู่บ้าน รวม 1,417 ครอบครัว โดยเกิดจากน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมขังบ้านพักอาศัย พื้นที่การเกษตร ถนน และสะพาน
       
       ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เหล่ากาชาดจังหวัด มณฑลทหารบกที่ 22 อุบลราชธานี ได้เข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตั้งแต่วันแรกที่เกิดน้ำท่วม ขณะนี้น้ำที่ไหลท่วมบ้านเรือนส่วนใหญ่ได้ลดลงแล้ว เหลือท่วมขังเฉพาะในพื้นที่การเกษตร และพื้นที่ลุ่มติดทางน้ำไหลผ่านตามลำน้ำสาขาต่างๆ 

ขอนแก่น - ป.ป.ส.เจ้าภาพจัดเวิร์กชอปเครือข่ายเฝ้าระวังยาเสพติดอาเซียน หลังยานรกระบาดเพิ่มขึ้นทั้งภูมิภาค เผยประเทศสมาชิกเห็นพ้องเพิ่มการเฝ้าระวังการซื้อขายยาเสพติดผ่าน Social Network และเพิ่มสายด่วน Hotline ระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกันได้ทันสถานการณ์



       ที่โรงแรมพูลแมนราชาออคิด ขอนแก่น นายพิภพ ชำนิวิกัยพงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (รองเลขาธิการ ป.ป.ส.) เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายเฝ้าระวังยาเสพติดอาเซียน ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 30 ก.ค.-1 ส.ค. 60
       
       มีผู้เข้าร่วมประชุมร่วม 100 คน ประกอบด้วย ผู้แทนจากประเทศในภูมิภาคอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ประเทศคู่เจรจา 3 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ผู้แทนจากสำนักเลขาธิการอาเซียน UNODC เครือข่ายองค์กรวิชาการสารเสพติด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยที่เกี่ยวข้อง
       
       โดยการประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อร่วมกันจัดทำรายงานเฝ้าระวังสถานการณ์ยาเสพติดอาเซียน ประจำปี 2559 (ASEAN Drug Monitoring Report 2016) ฉบับที่ 2 เพื่อเตรียมความพร้อมของประเทศสมาชิกสำหรับการพัฒนาฐานข้อมูลเฝ้าระวังสถานการณ์ยาเสพติดอาเซียนบน Website ASEAN-NARCO
       
       รวมถึงเพื่อส่งเสริมความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนด้านวิชาการที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน และเครือข่ายอาเซียนเฝ้าระวังยาเสพติด
       
       นายพิภพ ชำนิวิกัยพงศ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัญหายาเสพติดที่เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคอาเซียน ประเทศไทยโดยสำนักงาน ป.ป.ส.จึงได้มีการจัดตั้งเครือข่ายเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดอาเซียน ในปี 2558 ภายใต้กรอบการปฏิบัติงานของศูนย์ประสานงานความร่วมมือด้านยาเสพติดอาเซียน หรือสำนักงาน ป.ป.ส.อาเซียน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ ตลอดจนการดำเนินงานของประเทศต่างๆ และแจ้งเตือนสถานการณ์ยาเสพติดใหม่ๆ ในกลุ่มประเทศอาเซียน
       
       โดยกำหนดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการของเครือข่ายเฝ้าระวังยาเสพติดอาเซียนปีละ 2 ครั้งเพื่อจัดทำรายงาน ASEAN Drug Monitoring Report ร่วมกันเป็นประจำทุกปี สำนักงาน ป.ป.ส.ประเทศไทย ในฐานะเจ้าภาพได้จัดประชุมเพื่อร่วมกันจัดทำรายงานเฝ้าระวังยาเสพติดมาแล้ว 3 ครั้ง ได้รับความร่วมมือจากทุกประเทศเป็นอย่างดี 

       ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ประเทศในภูมิภาคได้มีการจัดทำรายงานสถานการณ์ยาเสพติดประจำปี 2558 ร่วมกัน ทั้งนี้ สถานการณ์ยาเสพติดในภูมิภาคอาเซียน ในปี 2559 ได้รับความร่วมมือจากประเทศสมาชิกในการเปิดเผยข้อมูลมากขึ้น
       
       โดยพบว่าในพื้นที่หลายๆ ประเทศมีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเมทแอมเฟตามีนมากกว่าครึ่งหนึ่งของภูมิภาค โดยมีข้อเสนอจากประเทศสมาชิกว่าควรเพิ่มการเฝ้าระวังการซื้อขายยาเสพติดผ่าน Social Network รวมถึงการใช้ยาในทางที่ผิดมากยิ่งขึ้น และควรเพิ่มสายด่วน Hotline ระหว่างประเทศสมาชิกในการแก้ไขปัญหายาเสพติดเพื่อให้สามารถสื่อสารถึงกันได้ทันท่วงที
       
       แผนการดำเนินงานที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการจัดตั้งเครือข่ายเฝ้าระวังยาเสพติดอาเซียน คือ การสร้างฐานข้อมูลเฝ้าระวังยาเสพติดของอาเซียน เพื่อใช้เป็นช่องทางในการแลกเปลี่ยนและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติดที่รวดเร็ว ทันสมัย ทัดเทียมกับภูมิภาคอื่นๆ 

       โดยสำนักงาน ป.ป.ส.คาดว่าจะสามารถพัฒนาฐานข้อมูลเฝ้าระวังยาเสพติดของอาเซียน จากแบบสอบถามที่ประเทศสมาชิกได้ออกแบบร่วมกันเพื่อเก็บข้อมูลยาเสพติดในภูมิภาค เพื่อให้ประเทศสมาชิกสามารถนำเข้าข้อมูลได้โดยตรงภายในเดือนกันยายน 2560 ประกอบกับในปี 2560 นี้เป็นวาระที่ศูนย์วิชาการสารเสพติดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการสารเสพติดครั้งที่ 10 ของประเทศไทย เพื่อเตรียมการเบื้องต้น
       
       สำหรับการพัฒนาฐานข้อมูลยาเสพติดอาเซียนบนระบบออนไลน์ของประเทศสมาชิกอาเซียน และส่งเสริมความร่วมมือการแลกเปลี่ยนด้านวิชาการที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนอีกด้วย
       
       “สิ่งสำคัญในการจัดประชุมครั้งนี้ คือ ประเทศสมาชิกได้ร่วมกันกำหนดนโยบายในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อดำเนินการต่อยาเสพติดหลักที่แพร่ระบาดในภูมิภาคให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน” นายพิภพกล่าว และว่า
       
       นอกจากนี้ ประเทศสมาชิกยังได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและแจ้งเตือนตัวยาใหม่ที่ค้นพบว่าเริ่มมีการแพร่ระบาดในภูมิภาคเพื่อร่วมกันเฝ้าระวังและควบคุมได้ทันท่วงที
       
       โดยแจ้งเตือนหากพบสัญญาณของปัญหาที่เกิดขึ้นในกลุ่มประเทศสมาชิกตามวาระซึ่งเป็นที่ตกลงกันของประเทศสมาชิก และร่วมกันตรวจสอบรายงานเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด ปี 2559 (ASEAN Drug Monitoring Report 2016) ซึ่งเป็นรายงานฉบับที่ 2 ของภูมิภาคอาเซียนให้มีความเรียบร้อยสมบูรณ์ต่อไป 

ศรีสะเกษ - 13 อ่างเก็บน้ำจากทั้งหมด 16 อ่าง จ.ศรีสะเกษทะลักล้น ผู้ว่าฯ เตือนประชาชนอพยพและขนทรัพย์สินของมีค่าไปอยู่ที่สูงและปลอดภัย ผวาเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ตลอดเวลา ขณะเขื่อนราษีไศลยกประตูระบายน้ำสูง 2.50 เมตร ปล่อยให้น้ำไหลตามธรรมชาติ

13 อ่างเก็บน้ำ จากทั้งหมด 16 แห่ง จ.ศรีสะเกษ ทะลักล้น ผู้ว่าฯ เตือนประชาชนอพยพและขนทรัพย์สินของมีค่าไปอยู่ที่สูงและปลอดภัย หวั่นเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ตลอดเวลา วันนี้ ( 31 ก.ค.)

       วันนี้ (31 ก.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้อ่างเก็บน้ำจำนวน 13 แห่ง จากที่มีอยู่จำนวนทั้งหมด 16 แห่งของ จ.ศรีสะเกษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอ่างเก็บน้ำที่อยู่ติดกับเทือกเขาพนมดงรัก แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยติ๊กชู อ่างเก็บน้ำห้วยสำราญ อ่างเก็บน้ำห้วยศาลา และอ่างเก็บน้ำโอว์ตาลัด ปรากฏว่าน้ำได้ล้นสปิลเวย์ไหลทะลักลงมาตามลำห้วยและตามลำน้ำสาขา เอ่อล้นเข้าไปท่วมพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านในเขตหลายอำเภอจำนวนกว่า 20,000 ไร่ รวมทั้งถนนหลายสายถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย ส่วนบ้านเรือนของชาวบ้านยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
       
       ขณะที่เขื่อนราศีไศลได้ยกประตูระบายน้ำขึ้นสูง 2.50 เมตร เพื่อให้น้ำในแม่น้ำมูลไหลตามธรรมชาติ ซึ่งจากการสำรวจของ นายบุญประสงค์ นวลสายย์ รักษาราชการแทน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ พบว่า การที่เขื่อนราศีไศลยกประตูระบายน้ำสูงขึ้นยังไม่มีผลกระทบน้ำท่วมบ้านเรือนไร่นาของชาวบ้านตามเส้นทางที่แม่น้ำมูลไหลผ่านแต่อย่างใด 

       นายครรชิต ดีหนองยาง นายอำเภอภูสิงห์ เปิดเผยว่า จากการที่ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โครงการชลประทาน จ.ศรีสะเกษ กำนัน ต.ห้วยตึ๊กชู และสมาชิก อส.อ.ภูสิงห์ ได้ร่วมกันสำรวจสถานการณ์ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำหลักทั้ง 4 แห่งในพื้นที่อำเภอภูสิงห์ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำ เนื่องจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องและมีน้ำป่าไหลเข้าสู่อ่างในห้วงที่ผ่านมาจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่าปัจจุบันอ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่งเต็มความจุอ่างและล้นสปีลเวย์ ดังนี้ อ่างเก็บน้ำห้วยสำราญ น้ำล้นสปิลเวย์ประมาณ 10 เซนติเมตร (ซม.) อ่างเก็บน้ำห้วยศาลา ล้นสปิลเวย์ประมาณ 10 ซม. อ่างเก็บน้ำห้วยตึ๊กชู น้ำล้นสปิลเวย์ประมาณ 15 ซม. และอ่างเก็บน้ำโอว์ตาลัด น้ำล้นสปิลเวย์ประมาณ 10 ซม.
       
       นายอำเภอภูสิงห์กล่าวต่อว่า ในด้านความเสียหายจากการสำรวจข้อมูลขั้นต้น พบว่ามีถนนในหมู่บ้าน และเส้นทางสำหรับใช้ในการเกษตร เสียหายจำนวน 25 เส้น ซึ่งได้สั่งการให้ อบต.ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ได้ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมเพื่อใช้สัญจรได้ก่อนชั่วคราว และบางส่วนอยู่ในระหว่างรอการซ่อมแซมเนื่องจากต้องรอให้ระดับน้ำลดลงก่อนจึงจะดำเนินการซ่อมแซมได้ ส่วนพื้นที่ทางการเกษตรที่ได้รับผลกระทบ ส่วนใหญ่เป็นที่นา สวนยางพารา ซึ่งมีน้ำท่วมขังประมาณ 1,000 ไร่ ทั้งนี้เนื่องจากอำเภอภูสิงห์ เป็นพื้นที่ต้นน้ำและมีอ่างเก็บน้ำหลักทั้ง 4 แห่ง ซึ่งหากเกิดฝนตกหนักและมีมวลน้ำไหลเข้าสู่อ่างจำนวนมาก หากล้นสปิลเวย์เกิน 50-80 ซม. มวลน้ำจะไหลเข้าสู่พื้นที่รองรับน้ำตามลำห้วยสาขา จาก อ.ภูสิงห์ อ.ขุขันธ์ อ.ปรางค์กู่ อ.วังหิน และเข้าสู่ตัว อ.เมืองศรีสะเกษ โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 3 วัน
       
       ทางด้าน นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ขอแจ้งเตือนไปยังประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ลุ่มต่ำริมลำห้วยต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ขอให้อพยพไปอยู่ที่สูงและปลอดภัย เพื่อเป็นการป้องกันน้ำท่วมฉับพลันที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพย์สินของมีค่า ขอให้เคลื่อนย้ายไปก่อนเพื่อความปลอดภัย ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอประสานงานกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมพร้อมรับน้ำท่วม และพร้อมที่จะเข้าไปให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยทันที โดยให้เฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
       
       ส่วนบริเวณพื้นที่ที่น้ำท่วมได้ลดลงแล้ว คือ อ.กันทรลักษ์ จะร่วมกับ นายเกริกชัย ผ่องแผ้ว นายอำเภอกันทรลักษ์ และนายทรงชัย รุจิรารังสรรค์ นายกเทศมนตรีเมืองกันทรลักษ์ และทุกภาคส่วนทำการล้างเมืองทำความสะอาดครั้งใหญ่เพื่อให้อำเภอกันทรลักษ์สะอาดสะอ้าน ให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขเช่นเดิมต่อไป 


นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ

ขอนแก่น - เมืองขอนแก่นน้ำลด พบแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ รถจักรยานยนต์เพียบ เก็บรวมไว้ที่ สภ.บ้านเป็ด เจ้าของรถแห่ขอรับคืน ด้าน ผกก.สภ.บ้านเป็ดพร้อมจัดส่งให้ทางไปรษณีย์แก่เจ้าของที่อยู่ไกล ลดค่าใช้จ่าย แจ้งขอออกป้ายทะเบียนใหม่


เจ้าของรถแห่ไปขอรับคืนป้ายทะเบียน ที่สภ.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น
       วันนี้ (31 ก.ค. 60) ที่ สภ.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น มีประชาชนจำนวนมากทยอยมาตรวจสอบแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ดนำมาเก็บรักษาไว้ด้านหน้า สภ.บ้านเป็ด หลังจากเก็บมาจากสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะ ถ.มะลิวัลย์ และ ถ.เหล่านาดี ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมหนักช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ใช้รถนำคู่มือรถและเอกสารแจ้งความมาเป็นหลักฐานติดต่อขอรับคืนตลอดทั้งวัน โดยมี พ.ต.อ.จรูญ นวมทอง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชุมพล หันชะนา ผกก.สภ.บ้านเป็ด คอยอำนวยความสะดวกและตรวจสอบเอกสารหลักฐานของรถทุกคัน 

       พ.ต.อ.จรูญ นวมทอง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า อิทธิพลพายุเซินกาทำให้น้ำท่วมขังทั่วทั้ง จ.ขอนแก่นช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะเบาบางลงแล้วแต่ยังมีน้ำท่วมขัง ขณะที่ช่วงเกิดพายุฝนฟ้าคะนองหนัก โดยเฉพาะวันที่ 28-29 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ส่งผลให้ถนนสายหลักของ จ.ขอนแก่นมีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะ ถ.มะลิวัลย์ และ ถ.เหล่านาดีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ขณะนี้น้ำลดแล้ว สิ่งที่พบคือป้ายทะเบียนรถถูกพบจำนวนมาก
       
       เจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัครฯ ออกตรวจความเรียบร้อย จึงนำแผ่นป้ายทะเบียนรถมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.บ้านเป็ด ทั้งหมด 185 แผ่นป้าย โดยพบว่ามีทั้งป้ายทะเบียนรถยนต์, รถจักรยานยนต์, รถแท็กซี่, รถบรรทุก ถูกแรงดันน้ำดันแผ่นป้ายทะเบียนหลุด ขณะขับรถลุยน้ำท่วมขังช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทั้งหมดเจ้าหน้าที่เก็บรักษาไว้และจัดทำเป็นรายละเอียดเพื่อสะดวกต่อการขอรับของเจ้าของรถตัวจริง 

       พ.ต.อ.จรุญกล่าวต่อว่า เจ้าของรถสามารถนำเอกสารคู่มือ และใบแจ้งความหายมาติดต่อขอรับป้ายทะเบียนได้ที่ สภ.บ้านเป็ดตลอด 24 ชั่วโมง และหากเจ้าของรถไม่สะดวกมาติดต่อขอรับ ให้มอบอำนาจและเตรียมเอกสารมาให้ครบ ขณะเดียวกัน หากอยู่พื้นที่ที่ห่างไกลหรือไม่สะดวกจริงๆ สภ.บ้านเป็ดจะตรวจสอบบุคคลครอบครองหมายเลขทะเบียนต่างๆ และจะจัดส่งทางไปรษณีย์ไปให้เจ้าของรถ โดยค่าใช้จ่ายจัดส่งนั้นตำรวจขอนแก่นและ กต.ตร.สภ.บ้านเป็ดรับผิดชอบ เพื่อแบ่งเบาภาระและลดขั้นตอนติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ขนส่งในการขอออกแผ่นป้ายทะเบียนใหม่ทดแทน 




นครพนม - ผวาหนัก! ลำน้ำก่ำทะลักท่วมตลาดสด อ.นาแก จ.นครพนม ขณะที่อีก 5 อำเภอยังอ่วม ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ชลประทานระบุ บึงหนองหาร จ.สกลนคร และลำน้ำก่ำ ปริมาณน้ำเกินความจุสองเท่าตัว ลดระดับช้า เร่งผันลงน้ำโขง



       
        ที่ จ.นครพนม ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมยังคงวิกฤต เนื่องจากระดับน้ำโขงยังทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 10-11 เมตร ห่างจากจุดวิกฤตประมาณ 3 เมตร คือที่ราว 13 เมตร ทำให้ลำน้ำสาขาสายหลัก ทั้งลำน้ำก่ำ ลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม ที่รองรับน้ำจากหลายพื้นที่ไหลระบายลงสู่น้ำโขงได้ช้า ส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่ม ชุมชนหมู่บ้าน และพื้นที่นาข้าว เป็นบริเวณกว้าง
       
       ล่าสุดมีพื้นที่ได้รับผลกระทบหนัก จำนวน 5 อำเภอ มี อำเภอนาแก อำเภอเรณูนคร อำเภอวังยาง อำเภอศรีสงคราม และอำเภอนาหว้า มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบน้ำท่วม รวมกว่า 1,000 ครอบครัว และมีพื้นที่การเกษตรนาข้าวถูกน้ำท่วมรวมกว่า 10,000 ไร่ ซึ่งทางจังหวัดได้ระดมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าไปติดตามตรวจสอบ ให้การช่วยเหลือต่อเนื่อง
       
       ขณะเดียวกัน ในส่วนของพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม ซึ่งติดกับลำน้ำก่ำที่รองรับน้ำมาจากหนองหาร จ.สกลนคร ไหลมาตามลำน้ำก่ำก่อนลงสู่แม่น้ำโขง ที่ อ.ธาตุพนม ทำให้พื้นที่ อ.นาแกได้รับผลกระทบหนัก น้ำในลำน้ำก่ำเพิ่มสูงเอ่อท่วมต่อเนื่อง 

       นอกจากมีน้ำท่วมขังชุมชนหมู่บ้าน และพื้นที่การเกษตรนาข้าว เมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ตลาดสดเทศบาลตำบลนาแก รวมถึงถนนสายต่างๆ อย่างรวดเร็ว มีระดับน้ำสูงกว่า 30-40 เซนติเมตร และยังคงเพิ่มระดับต่อเนื่อง
       
       เพราะมวลน้ำจากหนองหาร จ.สกลนคร ไหลมาสมทบ สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้าน บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ต้องเร่งเก็บของขึ้นที่สูง และนำกระสอบทรายมาวางป้องกันน้ำทะลักท่วมสิ่งของเสียหาย
       
       โดยทางอำเภอนาแก ร่วมกับเทศบาลตำบลนาแก และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้เข้าไปตรวจสอบดูแล เฝ้าระวังอันตรายจากระบบไฟฟ้า รวมถึงช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง 

       จากการตรวจสอบข้อมูลของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพัฒนาลุ่มน้ำก่ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ที่ดูแลระบบชลประทาน ตลอดแนวลำน้ำก่ำ ที่รับน้ำมาจาก จ.สกลนคร ที่ไหลระบายลงสู่หนองหารมาลงลำน้ำก่ำ ระยะทางยาวกว่า 120 กิโลเมตร ก่อนไหลลงสู่น้ำโขงที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ยังยืนยันว่า ระดับน้ำโขงสามารถรองรับน้ำได้อีกระดับหนึ่ง
       
       ส่วนปัญหาน้ำท่วมขัง คาดว่าจะต้องใช้เวลาระบายน้ำอีกไม่ต่ำกว่า 10 วัน เนื่องจากปริมาณความจุน้ำของหนองหารมีความจุเกินเท่าตัว จากปกติมีความจุที่ประมาณ 220 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปัจจุบันมีน้ำมากถึงประมาณ 400 ล้านลูกบาศก์เมตร
       
       ส่วนลำน้ำก่ำที่มีศักยภาพเก็บน้ำสูงสุดประมาณ 53 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมี ประมาณ 150 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่ามีจำนวนมาก ทำให้น้ำไหลบ่าเอ่อท่วมพื้นที่ใกล้เคียงเนื่องจากไหลระบายลงน้ำโขงช้า ซึ่งทางชลประทานกำลังระดมเครื่องสูบน้ำ ระบบผันน้ำ มาติดตั้งบริเวณประตูระบายน้ำโขงช่วงสุดท้ายให้ลงสู่น้ำโขงมากที่สุด
       
       โดยคาดว่าจะต้องใช้เวลาพอสมควรประมาณกว่า 10 วันจะทำให้น้ำลด จึงต้องแจ้งเตือนประชาชน และหน่วยงานเกี่ยวข้องให้เตรียมพร้อมรับมือ เนื่องจากมวลน้ำจากสกลนครจะไหลผ่านลงสู่น้ำโขงจำนวนมาก 


อุดรธานี - กลายเป็นเมืองบาดาล! อ.บ้านดุงประกาศขยายเวลาการงดเข้าสักการะ “ปู่ศรีสุทโธ-ย่าศรีปทุมมา” ออกไปอีก 3 วัน ตั้งแต่วันนี้ถึง 3 สิงหาคม 2560 หลังน้ำเอ่อเข้าท่วมสูงเสี่ยงอันตราย



        สถานการณ์ระดับน้ำที่แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ “คำชะโนด”ขณะนี้ตกอยู่ในภาวะวิกฤต เนื่องจากระดับน้ำยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ จนจะกลายเป็นเมืองบาดาลไปแล้ว
       
       โดยนายวีรวัฒน์ วงษ์ศรีรักษา นายอำเภอบ้านดุง จ.อุดรธานี ได้ออกประกาศขอความร่วมมือให้ประชาชนงดเข้าสักการะปู่ศรีสุทโธ-ย่าศรีปทุมมา ในพื้นที่เกาะคำชะโนด หลังคำชะโนดประสบปัญหาอุทกภัยตั้งแต่วันนี้จนถึง 3 สิงหาคม 2560
       
       แต่ทั้งนี้ พื้นที่ลานบวงสรวงด้านนอกยังคงสามารถเข้าบวงสรวงได้ตามปกติ หากมีการเปลี่ยนแปลงทางอำเภอจะประกาศแจ้งให้ทราบอีกครั้งต่อไป 

       รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ระดับน้ำภายในเกาะคำชะโนด ณ ขณะนี้มีความสูงมากกว่า 90 เซนติเมตร พระสงฆ์ที่จำพรรษาในสำนักสงฆ์ต้องขนย้ายสิ่งของออกจากกุฏิไปจำพรรษาที่วัดใกล้เคียงเพื่อหนีน้ำ
       
       ส่วนระดับน้ำรอบเกาะยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากแม่น้ำสงครามที่เป็นแม่น้ำสายหลักไหลผ่านอำเภอบ้านดุงมีมวลน้ำจำนวนมาก และไหลเอ่อจนทำให้เกิดน้ำท่วมดังกล่าว 





หนองคาย จัดแข่งขันกีฬาภายในโรงเรียน “นาน้ำพายเกมส์”

หนองคาย – โรงเรียนบ้านนาน้ำพาย จัดแข่งขันกีฬาภายในโรงเรียน “นาน้ำพายเกมส์” ประจำปีการศึกษา 2560         วันนี้ ( 27 ธ.ค. 2560 ) ที...