หนองคาย ห่วงใยผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่ไม่มีพ.ร.บ.ประกันภัยภาคบังคับ บ.กลางฯ ย้ำรถทุกคันต้องทำ

หนองคาย - บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขาหนองคาย ย้ำรถทุกคันต้องทำ พ.ร.บ.ประกันภัย  เน้นรถจักรยานยนต์ที่มีความเสี่ยงสูง เมื่อประสบอุบัติเหตุจะได้ไม่เดือดร้อนค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และค่าปลงศพ

       นางสาวนงลักษณ์ พิทักษ์กุล ผู้จัดการบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขาหนองคาย กล่าวว่า  จากข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน ในปี พ.ศ. 2560 จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ทั้งประเทศ มีจำนวน 7,641 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 500,674 คน เนื่องจากยังมีประชาชนจำนวนมากที่นำรถที่ไม่จัดให้มีการประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (ประกันภัยภาคบังคับ) มาใช้ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นรถที่มีความเสี่ยงสูงและเป็นประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุถึงร้อยละ 80 เมื่อประสบอุบัติเหตุทำให้เดือดร้อนค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลรวมถึงค่าปลงศพ  จึงอยากให้ประชาชนให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เมื่อประสบอุบัติเหตุจะได้ไม่เดือดร้อนค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และค่าปลงศพ หากเกิดอุบัติเหตุจากรถและรถคันที่เกิดอุบัติเหตุ มีประกันภัย พ.ร.บ. ทุกคนที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจะได้รับการคุ้มครอง

      นางสาวนงลักษณ์ พิทักษ์กุล ผู้จัดการบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขาหนองคาย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทำประกันภัย พ.ร.บ.จะได้รับความคุ้มครองอย่างไร พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 กำหนดให้รถทุกคันต้องจัดให้มีการประกันภัยภาคบังคับหรือประกันภัย พ.ร.บ. โดย พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ให้ความคุ้มครองผู้ที่ประสบอุบัติเหตุจากรถ ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร บุคคลภายนอก หากได้รับความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย แต่ไม่รวมถึงทรัพย์สินที่เสียหาย โดยบริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น (จ่ายโดยไม่รอผลพิสูจน์ความรับผิด) เมื่อเกิดอุบัติเหตุจากรถและรถคันที่เกิดอุบัติเหตุมีประกันภัย พ.ร.บ. ภายใน 7 วัน ดังนี้

       กรณีบาดเจ็บ จ่ายค่ารักษาพยาบาล ตามจริง ไม่เกิน 30,000 บาท/คน และกรณีเสียชีวิต/ทุพพลภาพถาวร/สูญเสียอวัยวะ จ่าย 35,000 บาท/ราย (หากเกิดความเสียหายทั้ง 2 กรณีรวมกันแล้วไม่เกิน 65,000 บาท) สำหรับการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น ค่ารักษาพยาบาล ให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เรื่อง มาตรฐานกลางของรายการและจำนวนเงิน ค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ที่บริษัทประกันภัยหรือกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ต้องจ่ายให้กับผู้ประสบภัยจากรถ ในส่วนการจ่ายค่าสินไหมทดแทน (เมื่อพิสูจน์ความรับผิดแล้ว) รวมค่าเสียหายเบื้องต้น ดังนี้ กรณีบาดเจ็บ จ่ายค่ารักษาพยาบาล ตามจริง ไม่เกิน 80,000 บาท/คนกรณีเสียชีวิต/ทุพพลภาพถาวร 300,000 บาท/ราย กรณีสูญเสียอวัยวะ (เป็นไปตามเงื่อนไขตามอัตราที่กำหนด) สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท/คน กรณีนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยใน) จ่ายค่าชดเชย 200 บาท/วัน สูงสุดไม่เกิน 20 วัน ส่วนผู้ขับขี่ที่เป็นฝ่ายที่ต้องรับผิดจะได้รับความคุ้มครองเฉพาะค่าเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น ในส่วนของการจ่ายค่าเสียหายของบริษัทประกันภัย จะจ่ายให้กับตัวผู้เสียหายที่แท้จริงเท่านั้นและหากผู้เสียหายนั้นไม่สามารถมาดำเนินการด้วยตนเองได้ ก็สามารถมอบอำนาจให้กับบุคคลหนึ่ง บุคคลใดที่ไว้วางใจให้มากระทำการแทนได้โดยต้องมีหนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ อีกทั้งการจ่ายค่าเสียหายนั้นทางบริษัทประกันภัยจะจ่ายเป็นเช็คชื่อผู้ประสบภัยที่แท้จริง เว้นแต่กรณีที่ผู้ประสบภัยเสียชีวิต บริษัทประกันภัยจะจ่ายเช็คให้กับทายาทโดยธรรมตามกฎหมายเท่านั้น

       ดังนั้นเจ้าของรถทุกคนมีหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องจัดทำประกันภัย พ.ร.บ.เพื่อเป็นหลักประกันและเป็นความรับผิดชอบเพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ทุกคนจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ถ้าเจ้าของรถที่ไม่ทำประกันภัย พ.ร.บ.จะมีความผิด มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท สำหรับผู้ประสบภัยจากรถทุกคนจะได้รับสิทธิความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และหากไม่ทราบว่าจะไปใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลหรือค่าปลงศพได้ที่ใด รวมทั้งไม่ทราบว่าจะต้องใช้เอกสารอะไรบ้างประกอบการเบิก ผู้ประสบภัยจากรถสามารถเข้าไปดูรายละเอียดข้อมูลการเบิกประกันภัย พ.ร.บ.,ความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. หรือคำถามเกี่ยวกับติดต่อใช้สิทธิตาม พ.ร.บ. ได้ที่ www.rvp.co.th ซึ่งจะมีข้อมูลดังกล่าวแสดงอยู่บนหน้าเว็ปไซต์ หรือสามารถติดต่อสอบถามได้ที่บริษัทกลางฯ Call Center 1791 ตลอด 24 ชั่วโมง สาขาหนองคาย 042 421380-1 0868513305 099 2873507

พม.จ.หนองคาย สำรวจคัดเลือกกลุ่มผลิตภัณฑ์คลังปัญญา

หนองคาย - สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดหนองคาย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสำรวจคัดเลือกกลุ่มผลิตภัณฑ์คลังปัญญา พร้อมรับสมัครคลังปัญญาในชุมชนเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ OTOP จังหวัดหนองคาย พัฒนาทักษะฝีมือให้มีมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์เป็นที่ต้องการของตลาด

       วันนี้ (30 พ.ย. 2560) ที่โรงแรมรอยัล นาคารา อำเภอเมืองหนองคาย  จังหวัดหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดโครงการการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสำรวจคัดเลือกกลุ่มผลิตภัณฑ์คลังปัญญา เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชน กลุ่มองค์กรและบุคคลด้านสตรี  กลุ่มอาชีพคนพิการ ที่กู้ยืมเงินกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กลุ่มอาชีพผู้สูงอายุ ที่กู้ยืมเงินกองทุนผู้สูงอายุองค์กรด้านการจัดสวัสดิการสังคมองค์กรสวัสดิการชุมชน องค์กรสาธารณประโยชน์ และเครือข่ายด้านคลังปัญญาผู้สูงอายุในจังหวัดหนองคาย ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ พัฒนาทักษะฝีมือให้มีมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์เป็นที่ต้องการของตลาด

       นางบุญรดา ทัพมงคล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ด้วยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองคายได้กำหนดจัดโครงการคลังปัญญาพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ OTOP จังหวัดหนองคาย เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายได้มีเวทีและพื้นที่จัดแสดงผลิตภัณฑ์ มีช่องทางการตลาดและช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้ง เป็นการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป และสิ่งสำคัญคือสามารถสร้างรายได้ สร้างอาชีพอย่างมั่งคงและยั่งยืนให้แก่กลุ่มเป้าหมาย นอกจานี้ยังได้รับเกียรติจากท่านวิทยากร จากสำนักงานพาณิชย์ จังหวังหนองคาย อาจารย์จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย มาบรรยายพิเศษ

       สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้น ประกอบด้วยการลงพื้นที่ประชุมเชิงปฎิบัติการเพื่อสำรวจและคัดเลือกกลุ่มผลิตภัณฑ์คลังปัญญาพร้อมรับสมัครคลังปัญญาในชุมชนแต่ละอำเภอ, เพื่อคัดเลือกประเมินความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ พร้อมจัดทำข้อมูล นำเสนอ ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะมีการคัดเลือกผลิตภัณฑ์จากทั้ง 9 อำเภออำเภอล่ะ 5 ผลิตภัณฑ์ เพื่อจะนำมาแสดงในงานมหกรรม “คลังปัญญาพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ OTOP จังหวัดหนองคาย” ต่อไป.

หนองคาย โรงเรียนอนุบาลดารณีท่าบ่อ พร้อมใจกันเดินขบวนพาเหรด ในการแข่งขันกีฬาสีภายใน “ดารณีเกมส์” ประจำปี 2560 (มีคลิป)

หนองคาย – “สุขภาพดี มีคุณธรรม นำวิชาการ ประสานการมีส่วนร่วม” โรงเรียนอนุบาลดารณีท่าบ่อ พร้อมใจกันเดินขบวนพาเหรดรอบเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ ในการแข่งขันกีฬาสีภายใน “ดารณีเกมส์” ประจำปี 2560 ภายใต้การดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจท่าบ่อ

       วันนี้ (30 พ.ย. 2560) นายดุสิต เหมือนบุตรดี ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลดารณีท่าบ่อ พร้อมคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬา และนักเรียนของโรงเรียนฯ พร้อมใจกันเดินขบวนพาเหรดรอบเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย รวมระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ในการแข่งขันกีฬาสีภายใน “ดารณีเกมส์” ประจำปี 2560 ซึ่งทุกคนต่างทุ่มเทกำลังใจ กำลังกายอย่างเต็มที่ในการจัดขบวนพาเหรดครั้งนี้ และได้รับความสนใจจากผู้ปกครองนักเรียน ประชาชนที่อยู่บริเวณสองข้างทางเดินขบวนพาเหรดมาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ซึ่งขบวนไปสิ้นสุดที่ลานอเนกประสงค์หน้าเสาธงโรงเรียนฯ เพื่อประกอบพิธีเปิดการแข่งขันกีฬา โดยมีนายประพาส นครภักดี นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ เป็นประธานเปิดการแข่งขัน

       นายดุสิต เหมือนบุตรดี ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลดารณีท่าบ่อ กล่าวว่า การจัดการแข่งขันกีฬาสีภายใน “ดารณีเกมส์” ประจำปี 2560 ครั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาบุคลิคภาพ และเปิดโอกาสให้นักกีฬาได้ค้นพบความสามารถและความถนัดเฉพาะตนในด้านกีฬา ให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลยาเสพติด โดยใช้กีฬาในการออกกำลังกาย มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง สมบูรณ์ และได้แสดงความสามารถทางด้านกีฬาอย่างเต็มศักยภาพ สนุกสนานเพลิดเพลิน เกิดการเรียนรู้ทักษะด้านกีฬา มีความสามัคคี ปลูกฝังการมีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และฝึกทักษะของการเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี ดั่งคำขวัญของโรงเรียนที่ว่า “สุขภาพดี มีคุณธรรม นำวิชาการ ประสานการมีส่วนร่วม”

นายดุสิต เหมือนบุตรดี ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลดารณีท่าบ่อ

       ทั้งนี้ในปีการศึกษา 2560 โรงเรียนอนุบาลดารณีท่าบ่อ ได้จัดการแข่งขันกีฬาในระดับอนุบาลและระดับประถมศึกษา โดยได้แบ่งออกเป็น 4 สี ประกอบด้วย สีแสดทองประกาย, สีแดงโกเมน, สีเขียวมรกต และสีฟ้าราชาวดี ดำเนินจัดการแข่งขันในระหว่างวันที่ 29-30 พฤษจิกายน 2560.

หนองคาย ทหารเดินหน้าช่วยชาวนาลงแขกเกี่ยวข้าวสืบสานวัฒนธรรมพื้นบ้าน

หนองคาย - กองทัพบก โดย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดหนองคาย เดินหน้าช่วยชาวนา นำกำลังพลร่วมกับจิตอาสาจากทุกภาคส่วน ลงแขกเกี่ยวข้าวสืบสานวัฒนธรรมพื้นบ้าน ลดภาระค่าแรงเกี่ยวข้าวและทำความดี ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

                   

       วันนี้ (27 พ.ย. 2560)  ที่แปลงนาข้าวบ้านดงเว้น ตำบลโพนสว่าง อำเภอเมืองหนองคาย  กองทัพบกโดย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดหนองคายร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลโพนสว่าง  ได้จัดกิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าวสืบสานวัฒนธรรมพื้นบ้าน โดยมี นายสุชาติ  ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดงานและร่วมลงแขกเกี่ยวข้าว  มี พันโทภาษิต  ประภาพักตร์ รอง ผู้บังคับกองร้อยรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดหนองคาย กล่าวรายงาน  ผู้เข้าร่วมประกอบด้วย  พันเอก ยุวัต  ขันธปรีชา ผบ.ป.3 ผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ประจำจังหวัดหนองคาย ,พันเอกสุทธิ์พิชญพงษ์   สิราวุธ  รอง ผอ.รมน.จังหวัดหนองคาย (ท) ,นาวาโทสุดทวิช เบญจจินดา หัวหน้าสถานีเรือหนองคาย, นายร่มไม้  นวลตา เกษตรจังหวัดหนองคาย,พ.ต.ต.ยุธยา  สังแสวง ผบ.ร้อย ตชด.245, พันตำรวจโท อรรถศักดิ์  ศิริพานิช  รอง ผกก.(ป) สภ.เมืองหนองคาย ,นายฉลอง ราชนิช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพนสว่าง พร้อมด้วยจิตอาสาจากทุกภาคส่วนทั้งจากภาคส่วน  ภาคเอกชน พลเรือน ข้าราชการ ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชนจิตอาสาตำบลโพนสว่าง และนักเรียน ร่วมเกี่ยวข้าว จำนวนกว่า 300 คน

                

       สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นการ แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความสมัครสมานสามัคคีในชุมชน  ช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาบ้านดงเว้นตำบลโพนสว่าง ที่ข้าวกำลังสุกงอมเต็มที่  ยังขาดแรงงานและทำการร้องขอเข้ามายังหน่วยทหาร เพื่อลดต้นทุนการผลิต บรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร เนื่องจากราคาข้าวตกต่ำ อีกทั้ง ยังเป็นการฟื้นฟูประเพณีวัฒนธรรมการลงแขกเกี่ยวข้าวให้กลับคืนสู่ชนบท รู้จักการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สมัครสมานสามัคคีในชุมชน และเป็นการปฏิบัติตามแนวพระราชดำริหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ถือเป็นการทำความดี  ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

      

       ซึ่งกองทัพบก โดย กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 และกองพันทหารปืนใหญ่ที่  13  ยังได้นำรถครัวสนาม มาประกอบอาหารเที่ยงบริการประชาชน และอบต.โพนสว่างและชุมชน ยังนำอาหารกลางวัน และน้ำดื่มมาร่วมบริการประชาชน ด้วย.